ทำเนียบ 9 มิ.ย. – “อนุทิน” ยันใช้กัญชาเกิน 0.2% มีความผิดตามกฎหมาย ย้ำมีไว้เพื่อการแพทย์และสุขภาพไม่ใช่เพื่อมึนเมา ชี้ดาราเสพโชว์ ถ้าเกินมาตรฐานกำหนดส่อถูกจับ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงความกังวลมาตรการชี้วัดค่าสาร THC ในกัญชาที่กำหนดไว้ไม่เกิน 0.2% ว่า เรื่องนั้นต้องเป็นการนำไปจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ ถ้าเราใช้ในครัวเรือน ไม่ได้จำหน่าย ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เพื่อความมั่นใจ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้สร้างชุดทดสอบกัญชา หรือ Test Kit ออกมาแล้ว เช่น ถ้าจะนำไปช่อ ดอก ไปต้มน้ำเพื่อขายก๋วยเตี๋ยว ก็จะให้ผู้ประกอบการตรวจสอบให้ถูกต้องและแจ้งให้ลูกค้าว่ามีส่วนผสมกัญชา แต่ต้องอยู่ภายใต้มาตรการที่กำหนด ซึ่งจากนี้จะนำข้อมูลและข้อเสนอที่เป็นประโยชน์ไปหารือกับคณะกรรมาธิการที่กำลังพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชงกัญชา เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงการแปรญัตติ และกฎหมายที่เกี่ยวกับกัญชาก็มีอยู่หลายฉบับ
ส่วนที่มีนักแสดงบางคนโชว์เสพกัญชานั้น นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งนี้จะทำให้ถอยหลัง เพราะเจตนารมณ์ของนโยบายกัญชาเสรีมีคำว่าเพื่อการแพทย์และสุขภาพ ไม่ใช่เพื่อการมึนเมา สังสรรค์ หรือสันทนาการ ซึ่งการสันทนาการมีได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบที่ปลอดภัย ดังนั้นการเสพโชว์ก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร และจะทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงและสงสัย ซึ่งจะทำให้การผลักดันนโยบายกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพนั้นมีปัญหา
“ถ้าเสพเป็นเรื่องส่วนตัว แต่สมมติเสพแล้วไปขอตรวจใบยา มีสารเกิน 0.2 ก็มีความผิดตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีได้ทันที ของเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่น่าโชว์เลย นโยบายนี้ออกมาเพื่อสุขภาพ รักษาอาการเจ็บป่วย การออกมาเสพโชว์ หรือทำให้คนเห็นผลร้าย ก็ต้องรับผิดชอบต่อสังคม และถ้าสิ่งที่ตนเองเสพเกินที่กฎหมายกำหนดก็มีความผิด” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่พรรคภูมิใจไทยได้นำเสนอมาโดยตลอด ได้นำเสนอนโยบายกัญชามาตั้งแต่ปี 2562 นั้น ได้รับฟังประชาชน แพทย์แผนไทย ที่นำกัญชามารักษาอาการป่วย และได้ผล มีประโยชน์ และอยากให้ผลักดันนโยบายนี้ เพื่อมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ จนดำเนินการมาถึงจุดนี้ ที่กฎหมายได้รับพิจารณาในสภามีเสียงรับหลักการท่วมท้น
ส่วนจะมีการวางแนวทางทางกฎหมายอย่างไรในระหว่างที่ พ.ร.บ.กัญชากัญชง ยังไม่บังคับใช้ นายอนุทิน กล่าวว่าได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมา และต้องประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น อีกทั้งเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องภายในประเทศ การนำเข้าส่งออกยังมีข้อห้ามอยู่ ดังนั้นหากเดินทางไปต่างประเทศ ไม่จำเป็นก็อย่าพกติดตัว และขณะนี้มีหลายประเทศติดต่อต้องการข้อมูลการประกาศใช้กัญชาเพื่อสุขภาพ ทั้งอาเซียนและรัฐมนตรีอีกหลายประเทศที่อยากมาดูงานว่าทำอย่างไร ไม่ก่อผลเสียและเน้นเรื่องการใช้ประโยชน์
นายอนุทิน กล่าวย้ำว่า ระหว่างนี้ที่กฎหมายยังไม่บังคับใช้ ก็จะมีระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขอยู่ และกรมอนามัยก็จะทำเป็นประกาศ เพื่อส่งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ โดยย้ำในประเด็นที่ไม่ก่อให้เกิดความรำคาญ จึงเป็นหลักเดียวกับที่ไม่ให้สูบในที่สาธารณะ เป็นต้น
เมื่อถามว่าถ้าไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์ แต่เสพที่บ้านสามารถทำได้เต็มที่ใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อันนี้เรียกในครัวเรือน ซึ่งมีบทบัญญัติอยู่แล้ว แต่หากนำไปใช้เชิงพาณิชย์หรืออุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดรายได้ ก็ต้องขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไม่ต่างจากการขึ้นทะเบียนอาหารหรือการขึ้นทะเบียนยา ซึ่งมีการควบคุมอยู่แล้ว ว่าสูตรการผลิตมาจากสูตรไหน โดยต้องไม่ก่อให้เกิดผลเสีย
“เรามีเจตนารมณ์ ตั้งใจทำให้พืชกัญชา เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ด้านการแพทย์และสุขภาพ รักษาการเจ็บป่วยและสร้างสินค้า ผลิตภัณฑ์ ที่เป็นประโยชน์ลดต้นทุนผู้บริโภค เพิ่มโอกาสเสริมสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เราต้องมองในมุมนี้ ดังนั้นคนที่จะอาศัยช่องว่างทางกฎหมายและก่อให้เกิดผลเสีย ตนคิดว่าสังคมตัดสินใจได้ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งสมัยก่อนถูกตีตราว่าเป็นผู้ร้าย การหามาก็ยาก ต้องไปหาซื้อตามตลาดมืด ต้องแอบซ่อน ตอนนี้ไม่ต้องแอบปลูก ปลูกที่บ้านหาได้ทั่วไป แต่อย่าใช้เชิงพาณิชย์ ซึ่งนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็บอกว่า ตอนที่ทำเรื่องพืชใบกระท่อมก็เกรงเรื่องนี้เหมือนกัน แต่พอกระท่อมสามารถซื้อขายได้อย่างเสรี ถูกกฎหมาย ทุกวันนี้ยังราคาไม่ตก ของมูลค่ามากขึ้น ประชาชนเห็นประโยชน์จากการใช้กระท่อม อุปสงค์อุปทานก็สอดคล้องกัน จึงหวังกันเช่นกันว่าถ้ากัญชาใช้ในทางถูกต้องแล้ว การใช้ได้รับความนิยม แม้จะปลูกเพิ่มก็มีผู้ใช้เพิ่มขึ้น ราคาก็จะพยุงไปได้” นายอนุทิน กล่าว
ทั้งนี้ จะสามารถขายต้นกล้ากัญชาได้หรือไม่นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่ลงลึกรายละเอียดขนาดนั้น และจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง ส่วนร้านอาหารที่ใช้กัญชาเป็นส่วนผสมมีสาร THC เกิน 0.2% นั้น ก็ชัดเจนว่าตำรวจก็สามารถดำเนินการได้เลย
ส่วนการลดค่าธรรมเนียมในการขออนุญาตจดแจ้งการปลูกกัญชาจาก 50,000 บาทนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการแปรญัติในคณะกรรมาธิการฯ ยืนยันจะพยายามให้เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชนให้น้อยที่สุด อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการเปิดกัญชาเสรีดังกล่าวนี้ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างแน่นอน ซึ่งดูจากจำนวนคนที่มาขอจดทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั้น จนระบบล่มก็แสดงให้เห็นถึงความสนใจของประชาชนจำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย