จำคุกตลอดชีวิต อดีต ผกก.โจ้-ลูกน้อง คดีคลุมถุงดำ

กทม. 8 มิ.ย. – ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต อดีต ผกก.โจ้ และลูกน้องอีก 5 คน คดีใช้ถุงดำคลุมหัว ส่วนจำเลยที่ 6 ลงโทษจำคุก 5 ปี 4 เดือน เนื่องจากไม่มีหลักฐานประจักษ์ว่าได้ร่วมกันฆ่าผู้อื่นอย่างทารุณกรรมโหดร้าย


และล่าสุดศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ และจำเลยที่ 2, 3, 4, 5 และ 7 แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์และนำผู้ตายส่งโรงพยาบาลให้แพทย์กู้ชีพ และช่วยค่าปลงศพ 30,000 บาท และวางเงินเยียวยา จึงเป็นเหตุให้ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วน ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น จำเลยที่ 6 ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 4 เดือน

วันนี้ ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นัดฟังคำพิพากษาของศาลชั้นต้น ในคดีที่จำเลย ประกอบด้วย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ จำเลยที่ 1, พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง จำเลยที่ 2, ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค จำเลยที่ 3 , ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา จำเลยที่ 4, ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว จำเลยที่ 5, ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น จำเลยที่ 6 และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว จำเลยที่ 7 ซึ่งทั้งหมดถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน หลังตกเป็นจำเลยในคดีใช้ถุงดำคลุมศีรษะนายมาวิน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด เพื่อบังคับให้บอกที่ซ่อนยาเสพติด จนทำให้นายมาวินขาดอากาศหายใจเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2564


คดีนี้ ศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งเป็นศาลระบบไต่สวน ต่างจากศาลอาญาที่เป็นระบบกล่าวหา ทางศาลจึงเป็นฝ่ายกำหนดพยานให้ฝ่ายโจทก์และจำเลยที่เห็นสมควรนำขึ้นไต่สวนได้เอง โดยศาลสืบพยานทั้ง 2 ฝ่ายจำนวน 23 ปาก ในช่วงเกือบ 10 เดือน หลังจับกุมจำเลย และฟ้องเป็นคดีต่อศาล

การอ่านคำพิพากษาวันนี้ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ไปยังเรือนจำที่คุมขังจำเลยทั้ง 7 คน มีเพียง พ่อ แม่ และญาติพี่น้องของฝ่ายโจทก์ที่เดินทางมาฟังคำพิพากษา ส่วนฝ่ายจำเลยมีครอบครัวและทนายความมาศาล

นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความของอดีตผู้กำกับโจ้ เปิดเผยว่า คดีนี้ต่อสู้กันตามข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน โดยชี้ให้ศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีเจตนาใช้ถุงดำคลุมศีรษะให้เสียชีวิต แม้จำเลยคลุมด้วยถุงพลาสติกหลายใบ แต่มีการคลายถุงให้มีอากาศหายใจ ใช้เวลาคลุมและผ่อนถุงนาน 7 นาที หากเจตนาให้เสียชีวิตจริง จำเลยคลุมถุงแน่นแค่ 4 นาที ก็เสียชีวิตแล้ว ประเด็นนี้ยังต่อสู้ว่า เหตุการณ์จริงมีมากกว่าในคลิปที่ปรากฏทางโซเชียล และการใช้ถุงดำคลุมศีรษะเพื่อให้หวาดกลัว ยอมคายข้อมูลที่ซ่อนยาเสพติด เพื่อประโยชน์ทางราชการ


ด้านบิดามารดาของนายมาวิน ผู้ตาย รวมทั้งทนายความ เดินทางมาฟังคำพิพากษา ซึ่งบิดาของผู้ตายยืนยันต่อสู้คดีเพื่อลูกชายอย่างเต็มที่ มั่นใจในหลักฐาน แต่วันนี้ผลของคดีจะออกมาอย่างไร ก็พร้อมยอมรับ และขอหยุดเพียงเท่านี้ จะไม่อุทธรณ์หรือฎีกา ขอสู้แค่ศาลเดียวพอ ไม่สู้ถึง 3 ศาล โดยขอให้ฝ่ายจำเลยจ่ายเงินเยียวยา 1.5 ล้านบาท ให้ตามข้อตกลง ก็พร้อมจบ

และล่าสุดศาลมีคำพิพากษาประหารชีวิต อดีตผู้กำกับโจ้ และจำเลยที่ 2, 3, 4, 5 และ 7 แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์และนำผู้ตายส่งโรงพยาบาล ให้แพทย์กู้ชีพ และช่วยค่าปลงศพ 30,000 บาท และวางเงินเยียวยา จึงเป็นเหตุให้ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต ส่วน ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น จำเลยที่ 6 ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 4 เดือน เนื่องจากไม่ผิดฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทารุณกรรมโหดร้าย ส่วนเงิน 1.5 ล้านบาท ที่บิดามารดาผู้ตาย ร้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า กฎหมายให้สิทธิ์ผู้เสียหายฟ้องค่าเสียหายและสินไหมทดแทนจากต้นสังกัด ซึ่งหมายถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่สามารถเรียกร้องกับจำเลยได้โดยตรง ศาลจึงยกคำร้อง . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชิงทอง

สอบเครียด! คนร้ายชิงทอง 113 บาท สารภาพเอาไปจำนำบางส่วน

สอบเครียดทั้งคืน ผู้ต้องหาชิงทอง 113 บาท รับสารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน ซื้อเบ้าหลอมเพื่อให้ยากต่อการติดตามของตำรวจ

เมียวดีระส่ำ! ปั๊มเหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน

เมียวดีระส่ำหนัก หลังไทยตัดกระแสไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมันข้ามชายแดน โดยเฉพาะน้ำมันขาดแคลนหนัก ปั๊มน้ำมันกว่า 20 แห่ง เหลือน้ำมันสำรองได้อีก 3-4 วัน ประธานหอการค้าเมียวดี เรียกร้องรัฐบาลไทยทบทวน อยากให้ 2 ประเทศ ร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ถูกจุด

ข่าวแนะนำ

ทำแผนชิงทอง

คุมทำแผนโจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท

คุมตัวทำแผน โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 113 บาท ในห้างฯ ย่านลำลูกกา สารภาพนำทองไปจำนำบางส่วน และซื้ออุปกรณ์หลอมทองเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่

จับเรือประมงเมียนมา

จับเรือประมงเมียนมา รุกล้ำน่านน้ำไทย

ศรชล.ภาค 3 จับกุมเรือประมงเมียนมาพร้อมลูกเรือ 13 คน ขณะลักลอบนำเรือประมงจอดลอยลำในทะเลอาณาเขตของไทย บริเวณ จ.ระนอง ใกล้เกาะค้างคาว