รัฐสภา 1 มิ.ย.-นายกฯ แจงสภาฯ รับผิดชอบงานทุกอย่างตลอด 24 ชั่วโมง ไม่หนี แนะ ส.ส.มองต่างมุม ทุจริตเพิ่มเพราะไม่ก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม พร้อมรับคำแนะนำไปปรับปรุง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมชี้แจงระหว่างการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ว่า งบประมาณในส่วนของการศึกษา ได้สอบถามสาเหตุที่งบประมาณลดลงจากกระทรวงศึกษาธิการแล้ว เนื่องจากจำนวนเด็กนักเรียนลดลง โดยเฉพาะนักเรียนที่เข้าสู่ระบบการศึกษา มีเด็กเกิดใหม่น้อยลง จึงเป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลที่งบประมาณน้อยลง แต่รัฐบาลยินดีสนับสนุนทุกอย่าง หากถูกตัดงบในชั้นกรรมาธิการ รัฐบาลมีงบกลางสนับสนุนทุกกระทรวง พร้อมจัดสรรงบประมาณสนับสนุนโครงการใหม่ที่รออยู่ ยืนยันจะดูแลให้ดีที่สุด ส่วนการทุจริตโยกย้ายตำแหน่งครู หากมีข้อมูลให้ร้องเรียนเข้ามาเพื่อแก้ปัญหา
นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกรณีที่ ส.ส.มองว่าปัจจุบันการทุจริตเพิ่มขึ้น ว่า ขอให้มองกลับอีกมุม แต่ก่อนคดีน้อยเพราะอะไร ทั้งที่การทุจริตก็มาก มีใครไปก้าวล่วงกระทรวงยุติธรรมหรือไม่ มีการร้องทุกข์กล่าวโทษมากน้อยเพียงใด เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเท่าไร ตนไม่เคยก้าวก่าย
“ฟ้องอะไรมาก็ฟ้องไป แม้แต่ฟ้องผมมาหลายร้อยคดี ผมก็สู้คดี ฉะนั้นต้องมองอีกมุมหนึ่ง ไม่ใช่เห็นว่ามีคดีเยอะ เพราะผมปล่อยปละละเลย มันไม่ใช่ ถ้าคิดแบบนั้นไม่มีตรรกะในความคิด ทำไมไม่มองว่าผมไม่ไปก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม ใครผิดใครถูก ตรวจสอบก็ว่ากัน แต่ถ้าจะคิดไม่ตรงกัน ก็แล้วแต่จะคิด ยืนยันว่าสถิติการปราบปรามทุจริตสูงขึ้น การลอกหลวงในออนไลน์จับหมด ประสานการปฏิบัติกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อจับกุมการกระทำผิดทางออนไลน์ หากท่านอยากจะช่วยให้ไปช่วยทำความเข้าใจว่า อย่าไปเชื่อการทุจริตทางออนไลน์ รัฐบาลพยายามชี้แจงในช่องทางที่มีอยู่” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ใช้โซเซียลอย่างมีประโยชน์ หากพบการทุจริต หรือยาเสพติด ขอให้ร้องทุกข์เข้ามา จะดูแลและเก็บเป็นความลับให้ จะส่งเอกสารมาถึงนายกรัฐมนตรีก็ได้ จะตรวจสอบให้ ซึ่งตนทำแบบนี้มาโดยตลอด และสั่งให้ดำเนินคดี ไม่ปกป้องใครทั้งสิ้น ตนรับผิดชอบทุกเรื่อง ขอให้ช่วยกันมองต่างมุมด้วย วันนี้ปราบปรามยาเสพติดถึงผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้สนับสนุน ยึดทรัพย์ มีผลงานมากมาย อย่างไรก็ตาม การปราบปรามอย่างเดียวอาจล่าช้า ไม่ได้ผล จึงต้องสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง ป้องกันยาเสพติด ไม่เช่นนั้นภาระจะมากขึ้นเรื่อย ๆ
“วันนี้เจ้าหน้าที่รัฐทำงานมาก โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ทุกกระทรวงลงไปช่วยกันหมด จนทำให้สถานการณ์มาถึงวันที่ 1 มิถุนายนที่เปิดประเทศค่อนข้างเต็มรูปแบบแล้ว ในฐานะนายกฯ ผมรับผิดชอบทุกอย่าง ไม่เคยท้อ ทำงานทุกวัน ไม่ว่าจะทำงานที่ทำเนียบฯ หรือที่อื่น ๆ เพราะวันนี้การทำงานใช้เทคโนโลยีได้ สามารถสั่งการได้ 24 ชั่วโมง ไม่ว่าในประเทศหรือต่างประเทศ ผมมีความรับผิดชอบและจะไม่ก้าวก่ายหรือสั่งการที่เกิดประโยชน์กับตนเองหรือกับใคร ทุกอย่างต้องเป็นไปตามระเบียบกฎหมายทุกประการ” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความเป็นห่วงข้าราชการหลาย ๆ คน ที่จะต้องถูกดำเนินคดีเหมือนเช่นที่ผ่านมา ซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้น และได้เตือนข้าราชทุกคนตลอดเวลา ทั้งหมดจะต้องทำให้ถูกต้องครบถ้วนกระบวนความ ถ้ามีปัญหาร้องเรียน ต้องตรวจสอบ สอบสวนหาข้อเท็จจริง บางอย่างเป็นเรื่องของคณะกรรมการก็ให้ทำงาน แต่หากเป็นหน้าที่ตนก็พร้อมตรวจสอบ
“ผมรับผิดชอบในภาพใหญ่อยู่แล้ว จะดีจะชั่วก็ต้องรับอยู่แล้ว ผมไม่หนี ขอยืนยัน ขอให้ทุกคนเข้าใจ ในบางครั้งผมรู้และทราบดี บางทีจะอารมณ์แรงนิดหนึ่ง เพราะเป็นมนุษย์คนหนึ่งเหมือนกัน แต่ผมพยายามจะระวังอย่างที่สุดในการที่จะพูดจาตรงนี้ ต้องขอขอบคุณในคำแนะดี ๆ ที่เป็นประโยชน์ จะรับไปดำเนินการ แก้ไขปรับปรุงเมื่องบประมาณผ่านแล้ว ในชั้นกรรมธิการต่อไป เพราะประชาชนก็รอว่าจะทำอะไรใหม่ให้ และดูแลใหม่อย่างไร เป็นความคาดหวังงบประมาณปี 2566” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย
