รัฐสภา 30 พ.ค. – “มงคลกิตติ์” ยันไม่ได้ใช้อำนาจ ส.ส.ข่มขู่ “ทนายเดชา” แค่หยอกล้อ คุยไม่สุภาพเพราะคุยแบบเพื่อน ไม่อนุญาตให้บันทึกเสียง เผยแพร่ไม่ได้ ผิดกฎหมาย ชี้รับหลักฐาน “บังแจ็ค” เพื่อความสมบูรณ์ของคดี
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ยืนยันไม่ได้ข่มขู่นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา เพียงแค่หยอกล้อ ซึ่งที่ผ่านมาทนายเดชาข่มขู่ตนหลายครั้ง เป็นการออกความเห็นข่มขู่ พูดในสิ่งไม่สมควรพูด ถ้าความเห็นกลาง ๆ ได้ไม่ผิดมารยาท ที่ผ่านมาทนายเดชาเคยพูดหมิ่นประมาทตนที่ระบุว่าเป็นคณะตลก ไม่ได้ใช้อำนาจส.ส.ข่มขู่ แต่เตือนแบบกัลยาณมิตร คุยไม่สุภาพ เพราะเหมือนเพื่อนกันคุยกันและไม่อยากให้ผิดคดีอาญา
ส่วนที่นายเดชาจะไปแจ้งความ นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า เป็นการพูดกัน 2 คน ห้ามบันทึกเสียง ไม่สามารถเอาไปเป็นหลักฐานได้ ใครเอาไปเผยแพร่ต้องรับผิดชอบ คนผิดไม่ใช่ตน กรณีดักฟังโทรศัพท์ถือว่าผิดกฎหมายอาญาและกฎหมายเกี่ยวกับโทรเลขและโทรศัพท์ มาตรา 24 ที่ต้องระวางโทษ 6 เดือน ถ้าจะเปิดเผยคลิปต้องขอคู่สนทนาก่อน แต่ไม่ได้รับอนุญาต
นายมงคลกิตติ์ อธิบายคำพูดที่ว่า “จะกระทืบ” ว่า ขอรับรองทนายเดชาจะ ปลอดภัย ไม่ได้จะทำอะไร แค่บอกว่าเป็นคนอื่นจะไม่คุยแบบนี้ จะคุยแบบสุภาพ และจะไม่คุยด้วยอีก
นายมงคลกิตติ์ กล่าวถึงคำพูดเรื่องวิถีทางการเมืองคือกรณีหากสมาชิกพรรคทั่วประเทศไม่พอใจ แล้วไปดำเนินคดี ส่วนเนื้อหา ที่พูดเกี่ยวกับ3 จังหวัดชายแดนใต้ เพราะกลัวคนทนไม่ไหว จะไปแจ้งความ3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเป็นห่วงพี่ชาย ถ้าต้องเดินทางไป เพราะแก่แล้ว พร้อมขอร้องให้นายเดชาให้ความเห็นคดีอื่นเต็มที่ คดีนี้ถ้าไม่จำเป็นอย่าออกความเห็นอีก และถ้าไม่สบายใจจะให้ไวน์ไปดื่มเพื่อความสบายใจ สัปดาห์ละ 1 ขวด
ส่วนกรณีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุว่าบังแจ๊คเป็น18 มงกุฎ จะยังให้ร่วมงานคดีแตงโม นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า บังแจ๊คไม่ได้มาร่วมงาน ถ้าเป็นพยานหลักฐานสำคัญก็ต้องรับไว้ เรื่องส่วนตัวว่ากันทีหลัง ขอให้แยกแยะระหว่างเรื่องส่วนตัวกับคดี อย่าผิดใจระหว่างทาง จะทำให้หลักฐานไม่ครบ ภาพรวมคดีไม่สมบูรณ์ แม้บังแจ๊คจะมีคดีมากมาย แต่ยังไม่ถึงที่สุด.-สำนักข่าวไทย