นายกฯ ยันร่วมถกอาเซียน-สหรัฐ ไม่เข้าข้างใคร เคารพกติกา

วอชิงตัน 13 พ.ค. – นายกรัฐมนตรี ยืนยันการร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐ ไม่เข้าข้างใคร ย้ำจุดยืนเคารพกติกา ไม่ขัดแย้ง ประเทศชาติต้องไม่เสียหาย ระบุอยู่การเมืองด้วยความจำเป็น มั่นใจหลังเปิดประเทศ ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะพุ่งสูงขึ้น 2-5 ล้านคน ในช่วงปลายปี


วันนี้ (12 พฤษภาคม 2565) เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศสหรัฐอเมริกา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้พบปะกับผู้แทนสมาคมชมรมคนไทยในกรุงวอชิงตัน ดีซี และเมืองใกล้เคียง รวมทั้งหัวหน้าสำนักงานและข้าราชการ หน่วยงานทีมประเทศไทย พร้อมครอบครัว ในโอกาสเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐอเมริกา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาที่สหรัฐอเมริกาอีกครั้ง อยากพูดคุยและขอบคุณที่ร่วมเป็นกำลังใจในการทำงาน และจากนี้จะต้องไปพูดคุยอีกหลายเวที ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำให้ประเทศไทยเดินไปข้างหน้า เพราะไทยมีเอกภาพในอาเซียน ถือเป็นแกนกลางของอาเซียน และเติบโตอย่างรวดเร็ว

นายกรัฐมนตรี ยังฝากให้คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ ขอให้ทำหน้าที่ทดแทนแผ่นดินเกิด และตอบแทนประเทศสหรัฐฯ ที่ดำเนินชีวิตอยู่ ต้องเคารพกฎหมาย และหากมีโอกาสให้กลับไปพัฒนาประเทศไทย พร้อมขอให้ดูแลบุตรหลานไม่ให้ลืมบ้านเกิดเมืองนอน โดยยอมรับว่า โลกดิจิทัลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง และหลายอย่างเกิดความวุ่นวาย การทำงานของรัฐบาลจึงไม่ง่าย ดังนั้นจะต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการเสพข่าว และเชื่อข่าวสารต่างๆ ตนเองทำงานมาหลายปี ผ่านเหตุการณ์ต่างๆ มาด้วยความอดทน เพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้นที่สุด จึงอยู่ที่ประชาชนจะตัดสินใจ ย้ำทำหน้าที่ด้วยความสุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่ทำอะไรที่ผิด โดยยึดเป้าหมายว่า ทุกอย่างต้องเกิดประโยชน์ต่อประชาชนทั่วประเทศ ไม่ใช่เพื่อตนเองหรือตระกูล ยืนยันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว รับราชการมาและเกษียณอย่างภาคภูมิใจ มาอยู่การเมืองด้วยความจำเป็น


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ที่มาประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ สมัยพิเศษ หลายคนจับตาว่า นายกรัฐมนตรีจะพูดอะไร และจะเลือกอยู่ข้างไหน ซึ่งยืนยันได้ว่าจะทำให้ดีที่สุด ทำอย่างไรประเทศไทยจะไม่เสียหาย เคารพกติกา และไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น ทุกอย่างขอให้ว่าไปตามหลักการ

และเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหรัฐฯ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ที่มาประชุม ส่วนความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ถือเป็นความสัมพันธ์พิเศษ ยาวนานกว่า 200 ปี ซึ่งประเทศไทยไม่เคยทำกับใครในโลกใบนี้ มีแต่ไทยกับสหรัฐฯ เท่านั้น โดยจะมีการพูดคุยด้านความร่วมมือที่หลากหลายมิติ ทั้งการอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน การพัฒนาเศรษฐกิจ หลังโควิด-19 เศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้จะเจอกับผู้นำสหรัฐฯ และผู้นำอาเซียน และสิ่งสำคัญที่เชิญรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมาด้วย เพราะจะมีการพูดคุยกับภาคธุรกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ เชิญชวนให้ลงทุนในประเทศไทย ขณะที่ความร่วมมือในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลาย เพราะยอดผู้ติดเชื้อของไทยเริ่มลดลงต่ำกว่าหมื่นติดต่อกันหลายวัน และไทยรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง เพื่อป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิต ซึ่งหลายคนกลัว แต่ตนเองฉีดมา 4 เข็มแล้ว โดยช่วงหนึ่งของการพูดคุย นายกฯ ได้สอบถามคนไทยในสหรัฐฯ ว่า กลัวติดเชื้อโควิด-19 กันหรือไม่ พร้อมระบุว่า เราต้องอยู่กับมันให้ได้ ซึ่งไทยได้รับคำชื่นชมที่ไทยบริหารจัดการได้ในระดับต้นของโลก บางอย่างเป็นอันดับหนึ่งของโลก ที่ผ่านมาต้องกำกับดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อความปลอดภัย ยอดผู้ติดเชื้อถึงลดลง อาจจะลำบาก แต่จะค่อยๆ ดีขึ้น ซึ่งวันนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายมากขึ้น ไทยเริ่มเปิดประเทศแล้ว หลายประเทศใช้ไทยเป็นต้นแบบ และตอนนี้ได้เริ่มเปิดให้เดินทางผ่านชายแดนแล้ว และข่าวดีคือการท่องเที่ยวของไทย ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อวันหลายหมื่นคน คาดว่าในช่วงปลายปีนี้อาจจะขึ้นไปถึง 2-5 ล้านคน หากไม่มีปัญหาใดเกิดขึ้นอีก อาจจะอยู่ที่ 5-10 ล้านคน


นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ปัญหาทุกวันนี้มีอยู่มาก ทั้งความขัดแย้ง การค้า การลงทุน ซึ่งเป็นปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน ส่วนเรื่องพลังงาน มีการเปลี่ยนผ่านใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทนให้มากขึ้น ซึ่งจะเน้นย้ำและผลักดันต่อที่ประชุมอาเซียน-สหรัฐฯ ในประเด็นนี้ด้วย ขณะที่การพบนักธุรกิจสหรัฐฯ จะมีการพูดคุยเรื่องการเสริมสร้างการลงทุนในประเทศ กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการจ้างงาน ซึ่งน่ายินดีที่นักธุรกิจสหรัฐฯ ไปลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก เพราะเชื่อมั่นในประเทศของเรา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยมี soft power ทั้งอาหาร วัฒนธรรม การถ่ายทำภาพยนตร์ กีฬา มวยไทย และที่สำคัญที่สุด คือ ยิ้มสยาม ซึ่งอาจหายไปในช่วงใส่หน้ากากอนามัย

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปค ในปี 2565 ซึ่งจะเน้นการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG โดยชาวไทยจะได้ต้อนรับผู้แทนเขตเศรษฐกิจที่เข้าร่วมการประชุมตลอดทั้งปี รวมทั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 จะได้ต้อนรับผู้นำเขตเศรษฐกิจ อีกทั้งจะเป็นโอกาสได้พูดคุยกับประเทศต่างๆ เพื่อแสวงหาความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะมิติเศรษฐกิจที่จะเป็นโอกาสในการผลักดันให้มีผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำว่า ให้ความสำคัญกับการดูแลคนไทยในต่างประเทศ และพยายามพบปะพูดคุยทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเดินทาง จึงหวังที่จะเห็นความสมัครสมาน สามัคคี และการช่วยเหลือเอื้ออาทร โดยยินดีที่ชุมชนไทยในสหรัฐฯ จัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งของชุมชนอย่างต่อเนื่อง และรัฐบาลพร้อมจะให้ความช่วยเหลือดูแลชุมชนไทยอย่างเต็มที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณชุมชนไทยที่ให้กำลังใจ และร่วมกันจนเป็นชุมชนที่เข้มแข็ง และหวังว่าทุกคนจะได้รับประโยชน์จากการพบปะพูดคุยในวันนี้ พร้อมขอให้เชื่อมั่นว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลยังคงเดินหน้าทำงานขับเคลื่อนประเทศอย่างเต็มที่ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนทุกคน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร