สำนักงานสลากฯ 28 เม.ย. – บอร์ดสลากฯ เห็นชอบนำสลาก 5 ล้านฉบับ ขายผ่านแอปฯ เป๋าตัง เริ่มงวด 16 มิ.ย.นี้ ย้ำสมัครขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ได้โควตาทันที ไม่ต้องแย่งกดตู้เอทีเอ็ม เปิดรับสมัครตัวแทน 3-18 พ.ค. สมัครก่อนได้สิทธิก่อน
นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วยนายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล และ พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ร่วมกันแถลงว่า ที่ประชุมบอร์ดสลากเห็นชอบให้จำหน่ายสลากฯผ่านแอปเป๋าตัง เฟสแรก เริ่มในงวด 16 มิ.ย.นี้ จึงเริ่มเตรียมขายได้ตั้งแต่ 2 มิ.ย. โดยเปิดให้ตัวแทนรายย่อย 1 หมื่นราย สมัครเข้าร่วมขายผ่านออนไลน์ จำนวน 5 ล้านฉบับ จากนั้นจะเปิดโอกาส ให้ ตัวแทนสมาคม มูลนิธิ องค์กร นำสลากมาฝากขายเพิ่มเติมได้ นักเสี่ยงโชคคนซื้อ สามารถเลือกหาเลขชุดได้ตามจำนวนต้องการ เมื่อขายสลากฯ ในราคา 80 บาท จะทำให้มีผู้นำสลากเข้ามาเพิ่มต่อเนื่อง จาก 5 ล้านฉบับ เพิ่มเป็น 10-15 ล้านฉบับต่องวด มากกว่าแพลตฟอร์มออนไลน์ดัง ที่ขายอยู่ 2-3 ล้านฉบับต่องวด คาดว่าจะช่วยดึงราคาในตลาดให้ลดลงมาเหลือ 80 บาทได้มากขึ้น
แอปพลิเคชัน “แอปถุงเงิน” และ “แอปเป๋าตัง” เป็นโครงข่าย Block chain ของกระทรวงการคลัง เปิดให้ตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ จะเข้าไปเป็นร้านค้าในแอป ถุงเงิน เพื่อเปิดให้ประชาชนนักเสี่ยงโชค เข้าไปซื้อสลากฯ ในแอปเป๋าตัง ปัจจุบันมีประชาชนใช้งานแอปเป๋าตังกว่า 30 ล้านบัญชี โดยใช้สลากฯ ที่ซื้อเอาไว้เป็นหลักฐานในการขอรับเงินรางวัลของผู้ถูกรางวัล เนื่องจากผู้ใช้แอปเป๋าตัง มีการแสดงยืนยันตัวตนการใช้แอปเป็นของตนเอง เหมือนกับการโอนเงิน รับเงินผ่านมือถือ ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน สลากที่ซื้อ จึงได้บันทึกข้อมูลเอาไว้ แสดงสิทธิในตัวสลาก ไม่ต้องกังวลหากสลากสูยหาย หรือการเรียกร้องสิทธิในตัวสลาก
พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ในวันที่ 3-18 พ.ค. จะเปิดรับสมัครตัวแทน นำสลากฯมาฝากขาย จากตัวแทน 1 หมื่นราย จำนวน 5 ล้านฉบับ จากตัวแทนรายย่อยขึ้นทะเบียนในปี 58 ผ่านระบบซื้อ จองล่วงหน้า และยังเปิดให้มูลนิธิ องค์กร เข้ามาร่วมเพิ่มเติม ย้ำว่าใครสมัครก่อนมีสิทธิก่อน หากสมัครจะเพิ่มช่องทางจำหน่ายได้มากขึ้น เมื่อเข้าโครงการขายผ่านแพลตฟอร์ม จะได้โควตาทันที ไม่ต้องแย่งกดเอทีเอ็มกับผู้อื่น สำหรับการซื้อจองล่วงหน้า ในปี 65 มีผู้สมัครทั้งรายเก่าและรายใหม่ นับล้านราย ยังเดินหน้าคัดกรองให้ได้ 2 แสนราย
นายธนวรรษ พลวิชัย โฆษกคณะรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า อยากแนะนำให้ผู้ค้ารายย่อย เร่งสมัครเข้าร่วมขายผ่านแพลทฟอร์มแอปเป๋าตัง ในระยะเวลา 1 ปี เมื่อร่วมโครงการขายสลากจะได้รับโควตาตลอด 1 ปี โดยไม่ต้องไปเสี่ยงแย่งกดเอทีเอ็มเพื่อซื้อ-จอง ล่วงหน้า เพราะแต่ละงวด จะมีผู้พลาดจากการกด ATM ไม่ได้ประมาณ 6 หมื่นราย/งวด สลากฯ 5 ล้านฉบับ ที่นำมาขายในแอปเป๋าตัง เป็นสลากยึดมาจากผู้กระทำผิดเงื่อนไข ซึ่งไม่ยอมจำหน่ายด้วยตัวเอง แต่นำไปขายต่อให้แพลทฟอร์มออนไลน์ จึงเดินหน้ายึดสลากฯจากผู้กระทำผิดมาให้เพิ่มต่อเนื่อง
ผู้เข้าร่วมโครงการ ได้รับประโยชน์จากการนำสลากมาขายบนแพลตฟอร์ม ทำให้มีช่องทางในการขายเพิ่มขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการขาย จากเดิมขายบนแผงหรือเดินเร่ขาย ให้เปลี่ยนมาเป็นขายบนแพลตฟอร์ม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น และยังเพิ่มโอกาสการขาย เนื่องจากผู้คนทั่วประเทศมองเห็นสลากฯ เพิ่มมากขึ้น จึงมีโอกาสถูกเลือกซื้อมากขึ้นกว่าการวางขายแค่บนแผงของตัวเอง เริ่มตั้งแต่ 06.00 น. – 23.00 น. ทุกวัน จนถึงก่อนเวลา 14.00 น. ของวันออกรางวัล นับว่ารองรับความต้องการของผู้ซื้อ ตามวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่
พันโท หนุน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงานสลากฯ เริ่มทดสอบระบบเป็นการนำร่อง 2 งวด เป็นระบบปิดครั้งแรก จะทดสอบระบบด้วยการนำสลากงวด 16 พฤษภาคม 2565 จำนวน 4,500 ฉบับ จากตัวแทนจำหน่ายรายย่อย และสมาคม/องค์กร นำมาสแกนสลาก 3-6 พฤษภาคม 2565 และเริ่มจำหน่าย 10-16 พฤษภาคม 2565 และจะทำการทดสอบการจำหน่ายสลากบนแพลตฟอร์ม ครั้งที่ 2 สลากงวด 1 มิถุนายน 2565 ด้วยจำนวนสลากเท่าครั้งแรก และมีขั้นตอนเช่นเดียวกัน หลังจากนั้น จะเริ่มขายจริง งวด 16 มิถุนายน 2565 จำนวน 5 ล้านฉบับ โดยใช้เวลาสแกนสลาก 6 วัน ช่วง 27 พฤษภาคม–1 มิถุนายน 2565 และเริ่มจำหน่าย 2 มิถุนายน 2565
นายลวรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการสลาก 80 ล่าสุด เปิดให้บริการแล้ว จำนวน 209 จุด ในกทม. และภาคกลาง และในงวดวันที่ 1 มิถุนายน 2565 จะมีเพิ่มอีก 151 จุด ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ระหว่างการจัดทำสัญญาอีก 48 ราย ในภาคตะวันออก และจะเดินทางไปคัดเลือกที่ภาคเหนือ และภาคใต้ อีกประมาณ 1,500 ราย ภายในเดือนพฤษภาคม 2565 เพื่อให้โครงการสลาก 80 ทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ส่วนโครงการลงทะเบียนผู้ซื้อ-จองล่วงหน้าฯ มีผู้สมัครเข้ามาทั้งรายเก่าและรายใหม่จำนวนกว่า 1 ล้านราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และยืนยันการเป็นผู้ขายจริง คาดว่าต้องใช้เวลาในการดำเนินการอีกระยะหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย