กทม. 23 เม.ย. – “เจี๊ยบ กาญจนาพร” เศร้ารับศพลูกชาย “เจย์-ศุภกาญจน์” ตั้งสวดวัดธาตุทองคืนแรก เชื่อลูกชายไม่มีเจตนา เป็นเพราะโรคประจำตัว ทำให้เป็นคนชอบคิดมาก ด้านจิตแพทย์แนะครอบครัวดูแลผู้ป่วยไบโพลาร์ใกล้ชิดก่อนสายเกินแก้
วงการบันเทิงเศร้าสูญเสีย เจย์-ศุภกาญจน์ ปลอดภัย ศิลปินและอดีตดีเจ ในวัย 40 ปี หลังพบเสียชีวิตที่บ้านพักหรู ย่านสวนหลวง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจย์-ศุภกาญจน์ เป็นลูกชายของแม่เจี๊ยบ-กาญจนาพร ปลอดภัย นักแสดงรุ่นใหญ่และผู้จัดละครช่อง 7
บ่ายวันนี้ครอบครัว ประกอบด้วย นางกาญจนาพร ปลอดภัย อายุ 63 ปี นักแสดง อดีตนางแบบและผู้จัดละคร พร้อมด้วยลูกสาวคนโต เดินทางไปรับศพ เจย์-ศุภกาญจน์ เพื่อตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่วัดธาตุทอง ศาลา 28
นางกาญจนาพร เปิดเผยว่า ตนเองย้ายบ้านไปอยู่ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ลูกชายเพิ่งกลับมาจากทำบุญช่วงสงกรานต์ ลูกชายรักษาอาการโรคไบโพลาร์ตั้งแต่เดือน มี.ค.64 ตอนนี้ก็ยังกินยาอยู่ คิดว่าน่าจะเป็นความคิดเพียงแวบเดียว ส่วนตัวลูกชายเป็นคนคิดมากอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ไม่มีสัญญาณบ่งบอกว่าจะเกิดเหตุลักษณะนี้ พร้อมเผยตนเองอยู่บ้านโป่ง แต่ลูกชายก็อยากอยู่บ้านของเขา
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่อยากบอกกับลูก คือ คุณแม่เก็บภาพที่อิ่มอกเอมใจไว้ตอนขอขมาพระอัฐิธาตุ พระพุทธอัฐิ พระรัตนตรัย และแม่ปฏิบัติธรรม 7 วัน ทำบุญถวายสังฆทาน ตอนถวายผ้าไตร พระท่านบอกจะเก็บไว้ให้ลูกชายบวช วันนี้มาทบทวนร่วมส่งบุญจิตภาวนาให้เขา ไม่ใช่แค่แม่ ตัวของเขาเองก็ต้องได้ด้วย ถึงแม้จะมีโทษมหันต์ เชื่อว่าเขาไม่มีเจตนา แต่เป็นเพราะอาการของโรค” นักแสดง อดีตนางแบบและผู้จัดละคร กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนำศพบรรจุใส่โรง พระสงฆ์ขอให้ญาติจุดธูป เจี๊ยบ กาญจนาพร มีลักษณะเหมือนจะเป็นลม จึงได้พาเข้าไปนั่งพักผ่อนก่อนที่ทางลูกสาวคนโตจะเป็นผู้จุดธูปทำพิธีนำศพ เชิญวิญญาณที่บ้านที่เกิดเหตุก่อนนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดธาตุทอง
ส่วนบรรยากาศที่วัดธาตุทอง ซึ่งมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพเป็นคืนแรก มีบรรดาพี่น้องในวงการเดินทางมาร่วมไว้อาลัยจำนวนมาก
จิตแพทย์แนะครอบครัวดูแลผู้ป่วยไบโพลาร์ใกล้ชิดก่อนสายเกินแก้
ด้าน นพ.อภิชาติ จริยาวิลาศ โฆษกกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงโรคไบโพลาร์ หรือโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติทางอารณ์ หากอยู่ในภาวะเศร้า จะมีอารมณ์เศร้ากว่าคนปกติทั่วไป ในไทยมีผู้ป่วยร้อยละ 1 ของประชากร ทั้งหญิงและชายเท่ากัน ผู้ป่วยไบโพลาร์มักจะไม่รู้ตัว หากมีคนในบ้านป่วยลักษณะนี้ ควรพาไปพบจิตแพทย์ เพราะอาการแต่ละคนไม่เหมือนกัน ควรทานยาสม่ำเสมอ สิ่งสำคัญคือไม่ควรพูดกระทบกระเทือนจิตใจ ไม่พูดจาถากถาง ซ้ำเติมคนไข้ และไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ หรือใช้สารเสพติด เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวกระตุ้นทั้งสิ้น ไม่ควรนอนดึก ห้ามอดนอน คนใกล้ชิดต้องเข้าใจว่าเป็นอาการของคนป่วย ไม่ใช่คนนิสัยไม่ดี
ส่วนการฆ่าตัวตายนั้น เป็นอาการในระยะรุนแรง ซึ่งอาจซึมเศร้าต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ติดต่อกัน หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจเกิดเหตุไม่คาดคิดได้ เพราะระหว่างเกิดเหตุผู้ป่วยจะไม่รู้ตัว ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือควรไปปรึกษาจิตแพทย์ ให้ประเมินอาการอย่างใกล้ชิด. – สำนักข่าวไทย