ส่งมอบผลชันสูตร “แตงโม” รอบ 2 ให้ครอบครัว

กทม. 31 มี.ค.-คณะกรรมการผ่าพิสูจน์ร่าง “แตงโม” รอบ 2 ส่งมอบผลให้ครอบครัวแล้ว ทนายเดชา ระบุจะนำผลกลับไปหารือกับครอบครัวและตำรวจ ว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี เอาผิดกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องทำ “แตงโม” ตกเรือได้หรือไม่

เวลา 15.10 น. ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ร่วมกับ พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์วรวีร์ ไวยวุฒิ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ในฐานะประธานคณะกรรมการผ่าพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ นายแพทย์รักษชัย นาทองไชย หัวหน้ากลุ่มนิติพยาธิวิทยา สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ตัวแทนนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดา นางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม ผู้เสียชีวิต แถลงผลการผ่าพิสูจน์ร่าง “แตงโม” รอบ 2


ว่าที่ ร้อยตรี ธนกฤต เปิดเผยว่า หลังก่อนหน้านี้ แม่แตงโม ร้องผ่านทนายความ ขอให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ดำเนินการตรวจพิสูจน์ร่างแตงโม รวม 11 จุด เพื่อคลายข้อสงสัยให้ครอบครัว และสังคม จากนั้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ได้รับร่างแตงโม จากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ มาทำการผ่าชันสูตรรอบ 2 ซึ่งได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว และจะส่งมอบต่อให้ แม่แตงโม ผ่านทนายความ ต่อไป

พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ ได้ชี้แจงว่า เรื่องนี้ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก หลังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ได้รับเรื่องเมื่อวันที่ 14 มีนาคม วันรุ่งขึ้นได้มีการประชุมหารือกันวันที่ 16 ในการตั้งคณะทำงานขึ้นมา วันที่ 17 ผ่าพิสูจน์ใช้เวลา 4 วันในการดำเนินการ วันนี้เป็นวันที่ 31 มีนาคม ใช้เวลาผ่ารอบ 2 รวม 15 วัน ที่ล่าช้าเพราะต้องรอรายงานผลตรวจชิ้นเนื้อ เนื้อเยื่อจากห้องปฏิบัติการซึ่งในวันนี้รายงานผลทั้งหมดออกมาทั้งหมดแล้ว ซึ่งข้อสงสัยของแม่แตงโมรวมทั้ง 11 ข้อ ก็ได้มีการชันสูตรได้เกือบทั้งหมด แต่การผ่ารอบ 2 มีข้อจำกัดหลายประเด็น เช่น สภาพศพมีการเปลี่ยนแปลงหลังการตายไปตามกาลเวลา และจะทำการส่งข้อมูลให้กับแม่ของแตงโม ผ่านทางทนายความ เนื่องจากเป็นผู้ร้องขอให้มีการผ่าพิสูจน์รอบที่ 2 และจะสามารถชี้แจงผลให้สื่อมวลชนทราบได้แค่บางประเด็นเท่านั้น


ว่าที่ ร้อยตรี ธนกฤต กล่าวเพิ่มเติม ว่า 11 ข้อสงสัยของแม่แตงโม ได้หารือกับทนายเดชา ซึ่งจะสามารถชี้แจงได้เพียงบางประเด็น เช่น ศรีษะไม่พบบาดแผล ใบหน้าที่มีการเปลี่ยนแปลงจากการผ่าครั้งแรกเพราะเป็นไปตามการเปลี่ยนแปลงหลังการตาย ลำคอของผู้ตายที่สวมสร้อยอยู่ พอเวลาผ่านไปก็เกิดอาการบวมของร่างกายพอผ่าพิสูจน์ก็ไม่พบว่ามีการถูกรัดคอแต่อย่างใด ส่วนผลอื่นๆ เช่นผลการตรวจอวัยวะเพศ นำสารคัดหลั่งไปตรวจ, หลอดลม, หน้าอกใต้คอ, เล็บ ได้ตรวจซ้ำ แต่เป็นรายละเอียดที่อยู่ในซอง ได้มอบให้ทนายแล้ว ส่วนเสื้อผ้าการตรวจรอบ 2 เสื้อผ้าที่แตงโมสวมใส่ ไม่ใช่ชุดเดียวกันกับที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับการผ่าพิสูจน์ในครั้งนี้ นอกจากนี้ผ่าพิสูจน์รอบ 2 ยังมีการตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกหลายอย่าง เพื่อให้คลายข้อสงสัย เช่น การทำซีทีสแกนโครงกระดูกก็พบว่าไม่มีรอยบิ่น หรือแตก ตรวจเพิ่มที่ฟันพบว่าครบถ้วนสมบูรณ์ และมีการตรวจพบบาดแผล 22 จุด ส่วนข้อสงสัยเรื่องบาดแผลที่ด้านในขาขวา จะเกิดจากของมีคมชนิดใด ไม่ใช่หน้าที่ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ในการจะต้องพิสูจน์ มองว่าเป็นเรื่องการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ต้องดำเนินการ

นายแพทย์วรวีร์ รองผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยถึงบาดแผลที่ต้นขาขวาของคุณแตงโม ว่าบาดแผลดังกล่าวไม่สามารถตอบมาให้ชัดเจนได้ว่าบาดแผลที่ต้นขาขวานั้นเกิดขึ้นจากวัตถุอะไร ซึ่งพนักงานสอบสวนจะไปพิสูจน์หาบาดแผลดังกล่าวในการประกอบสำนวนคดี ขณะที่ในเรื่องการตรวจแอลกอฮอล์ที่มีข้อสงสัยว่าทำไมตรวจในคนที่ยังมีชีวิตอยู่กลับไม่พบปริมาณแอลกอฮอล์ แต่พอตรวจในคนเสียชีวิตกลับพบแอลกอฮอล์ในเลือดนั้น คุณหมอผ่าศพชี้แจงว่า เพราะแอลกอฮอล์นั้นถูกขับออกโดยลมหายใจ และถ้าหากเสียชีวิตไปแล้ว คนเสียชีวิตจะสามารถตรวจเจอแอลกอฮอล์ได้ แต่ในคนที่มีชีวิตอยู่แอลกอฮอล์จะถูกขับออกมาตามลมหายใจ ซึ่งผ่านไปหลายชั่วโมงก็จะไม่สามารถตรวจพบตามหลักทางการแพทย์อยู่แล้ว ขณะที่การตรวจผ้าอนามัยเพื่อหายูเรียในน้ำปัสสาวะนั้น ถ้าหากผ้าอนามัยมีการซึมซับยูเรียไว้ก็จะตรวจเจอ แต่ถ้าหากมีการแช่น้ำไว้เป็นเวลานาน ยูเรียก็จะถูกชะล้างออกไปทำให้บางครั้งก็จะไม่สามารถตรวจเจอได้

ทนายเดชา เปิดเผยว่า สรุปผลการชันสูตรรอบ2 ส่วนใหญ่พบตรงกันกับครั้งแรก แต่รายละเอียดย่อยต้องกลับไปดูอีกครั้ง และต้องปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผลการตรวจครั้งแรกตรงกับครั้งที่ 2 หรือไม่ แตกต่างกันมากน้อยเพียงใด เป็นประโยชน์ต่อการแจ้งดำเนินคดีข้อหาเพิ่มกับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องและเป็นการกระทำที่เกิดโดยเจตนาหรือไม่ โดยเฉพาะ 22 บาดแผล ที่พบในการชันสูตรรอบ 2 จะมีประโยชน์หรือน้ำหนัก ให้แจ้งข้อหาเพิ่มได้หรือไม่ และเชื่อว่าไม่น่าจะมีการผ่าพิสูจน์ในครั้งที่ 3 แล้ว และเชื่อว่าในเร็วๆ นี้พนักงานสอบสวนอาจจะมีการขออำนาจศาลออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องคนในเรือ ส่วนวันนี้ได้ผลการชันสูตรมาก็จะไปพูดคุย จากนั้นก็เตรียมที่จะปิดคดีแล้ว ทั้งนี้ในวันนี้เป็นคดีประมาท แต่หากต่อไปอาจมีหลักฐานเพิ่มก็อาจมีข้อหาอื่นๆ ก็เป็นได้ สำหรับข้อกังวลว่าจะถูกแม่ปลดไหม ตัวเองว่าคงไม่ถูกปลดเพราะมีความสัมพันธ์กับแม่ที่ดี ขณะที่ปอกับเบิร์ตไม่เคยประสานมาจะพูดคุยความจริงอะไร


ส่วนเรื่องคลิปหน้ารถนั้น คลิปดังกล่าวไม่มีเสียงอะไร มันเป็นเฟคนิวส์ ใครที่พูดต้องรับผิดชอบ ส่วนทนายกฤษณะไม่ได้มีการปรึกษาอะไร เพราะเขาย้ายสังกัดไปแล้ว คือไปอยู่สังกัด 007 กับบังแจ๊คโปรโมชั่น ซึ่งไม่เชื่อว่าทนายกฤษณะ จะออกมาแฉอะไรคุณแม่

ขณะที่กรณีของคุณแม่น้องแตงโมนั้น ถ้าหากคนจะไปด่าแม่ ทัวร์ลงแม่ ก็ให้มาด่าตนเองดีกว่า เพราะแกอายุมากแล้ว นอนไม่หลับ ถ้าหากแม่เป็นญาติผู้ใหญ่ของท่านๆ จะรู้สึกอย่างไร คนที่ด่าแม่ ด่ามาเดือนนึงแล้วก็ยังไม่หยุด ตัวเองก็ไม่เข้าใจว่าไปด่าแม่เขาทำไม โรคจิตหรือเปล่า ซึ่งแม่เองก็ไม่อยากเอาเรื่องเอาราว แต่ถ้ามากๆ นัก ก็อาจจะร้องฟ้องสักรายสองรายให้เป็นตัวอย่าง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

แม่คะนิ้งโผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดอุทยานฯ พรุ่งนี้

จังหวัดเลย อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ “แม่คะนิ้ง” โผล่ภูกระดึง เตรียมเปิดให้ท่องเที่ยวพรุ่งนี้ (23 ธ.ค.) หลังปิดมา 9 วัน จากเหตุช้างป่า

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิขยับลงอีก 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศหนาวเย็นกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 1 – 2 องศาฯ ยอดดอยและยอดภูหนาวจัด มีน้ำค้างแข็งบางแห่ง

ยิงพรานล่าหมูป่า

เพื่อนรับเป็นคนยิงนายพรานวัย 52 อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า

เพื่อนเปิดปากรับสารภาพเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงนายพรานวัย 52 ปี เสียชีวิตในสวนผลไม้ อ้างคิดว่าเป็นหมูป่า ยืนยันไม่ได้มีปัญหาหรือมีเรื่องกันมาก่อน