ตำรวจยังไม่สรุปคดี “แตงโม” สัปดาห์นี้

กรุงเทพฯ 8 มี.ค.- ตำรวจยังไม่สรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม-ภัทรธิดา” สัปดาห์นี้ รอผลบาดแผลที่ขา เกิดก่อนหรือหลังตกเรือ ขณะที่หลักฐานยังไม่บ่งชี้ถึงการฆาตกรรม


พลตำรวจตรีอุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยภายหลังพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เข้ารายงานความคืบหน้าคดีการเสียชีวิต​ของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงสาว โดยระบุว่าขณะนี้พนักงานสอบสวน สอบปากคำพยานไปแล้ว 77 ปาก พร้อมทบทวนหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ กล้องวงจรปิด 60 ตัว และ คลิปวิดีโอประมาณ 20 คลิป ซึ่งมีทั้งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ โดยภาพรวมผลเป็นที่น่าพอใจ แต่จากคำให้การของบุคคลที่อยู่ในเรือหลายครั้ง ทำให้พอจะเห็นภาพขณะเกิดเหตุ ตั้งแต่คำให้การของนายไพบูลย์ ศรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ที่ยอมรับว่าขับเรือไม่เป็น แต่อยากลองขับเรือ ทำให้มีจังหวะที่เรือกระชาก ขณะใช้ความเร็วเรือ 8 น็อต จนทำให้แตงโมพลัดตกเรือ บริเวณกาบซ้ายด้านใต้ หลังทำธุระส่วนตัว และพยายามลุกขึ้นมา ซึ่งเป็นช่วงเวลาเสี้ยววินาที จึงมีการส่งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ไปสอบทานกับภาควิชานิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อยืนยันเพิ่มเติมว่าบาดแผลของแตงโม เกิดก่อนหรือหลังเสียชีวิต เพราะมีผลต่อการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าอีกประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะทราบผล

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสั่งให้จำลองเหตุการณ์ เพื่อให้เกิดความแน่ชัดอีกครั้ง เนื่องจากยังมีประเด็นเรื่องการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ หลังการค้นบ้านของนายนิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร หรือจ๊อบ พบเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ ที่เชื่อว่าเป็นของที่ใช้ดื่มกินบนเรือวันเกิดเหตุ และผู้ที่อยู่บนเรือทุกคน ให้การตรงกันว่า วันเกิดเหตุมีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จริง ส่วนที่มีการทิ้งแก้วเครื่องดื่ม สันนิษฐานว่าเกิดจากความกลัว ในทำนองเดียวกับการเมาแล้วขับ จึงพยายามทำลายหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และมีการนัดแนะคำให้การหลังเกิดเหตุ แต่เชื่อว่าทุกคนต้องได้รับผลแห่งการกระทำ


รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวด้วยว่า หลักฐานที่พบขณะนี้ ยังไม่ปรากฏว่าแตงโมรับงานเอนเตอร์เทน ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่าผู้ต้องหาประสงค์จะบวชนั้น เมื่อได้รับการประกันตัว ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ก็มีสิทธิที่จะบวชได้ แต่ขึ้นอยู่กับทางวัดว่าจะอนุญาตหรือไม่

ด้านพลตำรวจตรียิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า จากพยานหลักฐานในขณะนี้ แนวโน้มทางคดีเป็นการประมาททำให้มีความตาย โดยยังไม่บ่งชี้ถึงการฆาตกรรม อีกทั้งพยานหลักฐานยังไม่ปรากฏว่ามีการใช้ยาเสพติด ทั้งผู้ที่อยู่บนเรือและผู้เสียชีวิต จึงยังไม่มีการแจ้งข้อหาใครเพิ่มเติม แต่เพื่อให้สังคมสิ้นข้อสงสัย พนักงานสอบสวนยังรอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อย่างเป็นทางการ ทำให้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะมีการแถลงปิดคดีเมื่อใด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

จับหนุ่มอินเดียขนเงินกว่า 15 ล้านบาท เข้าไทย

หนุ่มอินเดียหอบเงินสด 15.7 ล้านบาท เดินเท้าจากปอยเปตเข้าไทย อ้างเล่นพนันได้ เจ้าหน้าที่เร่งขยายผล หวั่นพัวพันคอลเซ็นเตอร์

โฆษกรัฐบาล นำบุกร้านขายบุหรี่ไฟฟ้า แต่ไหวตัวทันไม่เจออะไร

โฆษกรัฐบาล นำ สคบ.-สธ. บุกร้านลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าย่านสายไหม หลังได้รายงานลับ แต่ร้านไหวตัวทัน ปิดหนีหมดไม่เจออะไร เตรียมเสนอนายกฯ ตั้ง กก.ปราบจริงจัง เผยตัวเลขขายปีละ 5 พันล้าน อ้างเป็นสินค้าผ่านแดน แต่ปล่อยหลุดเข้าไทย

รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย เอี่ยวฟอกเงินหลอกลงทุนคริปโต

ตำรวจไซเบอร์รวบหนุ่มจีนพร้อมสาวไทย กินหรูอยู่สบาย เอี่ยวฟอกเงินขบวนการหลอกลงทุนคริปโต พบเกี่ยวพันอีก 28 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน