เตรียมปิดคดี “แตงโม” ศุกร์นี้

กรุงเทพฯ 8 มี.ค.-ตำรวจสรุปคดี “แตงโม” ศุกร์นี้ ชี้ขับเรือประมาทเป็นเหตุให้แตงโมตกน้ำ พบเตี๊ยมข้อมูลให้การ ด้านทนายเข้าพบเย็นนี้ คาดหารือชันสูตรศพรอบ 2 หลังแม่ยังติดใจการเสียชีวิต


พล.ต.ต.อุดร ยอมเจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในฐานะโฆษกคดีการเสียชีวิต​ของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม พลัดตกเรือจมแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิตว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ (8 มี.ค.) จะมีการประชุมกับ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. โดยเรียกทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ฝ่ายสืบสวน สอบสวน, นิติเวชฯ กองพิสูจน์หลักฐาน และอีก 2-3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคลี่คลายคดี เพื่อมารับทราบความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนและสั่งการคาดว่าจะเป็นการประชุมนัดสุดท้ายของ ผบ.ตร.ซึ่งจะให้แนวทางสรุปสำนวนคดีดังกล่าว หลังสืบสวนสอบสวนจนคลาย​ข้อสงสัยได้ทั้งหมดแล้ว รวมทั้งประเด็นที่นายโรเบิร์ต มีพี่น้องฝาแฝด ตำรวจได้ทำการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลโดยเก็บตัวอย่าง DNA จากส่วนอื่นของร่างกายไปตรวจสอบ เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้ต้องหาตัวจริง เนื่องจากนายโรเบิร์ต ได้ทำการปลูกผม ซึ่งการที่นายโรเบิร์ต ปฎิเสธให้เก็บเส้นผมไปตรวจก็ถูกต้องแล้ว เนื่องจากไม่ใช่เส้นผมของตัวเอง ส่วนการสอบปากคำได้ทำการสอบปากคำพยานไปแล้วกว่า 71 ปาก

มีรายงานว่าการสรุปสำนวนคดีการเสียชีวิตของแตงโม พนักงานสอบสวนจะสรุปว่า ผู้ต้องหา คือ นายปอ และโรเบิร์ต ขับเรือประมาทเป็นเหตุให้แตงโม พลัดตกน้ำเสียชีวิต ส่วนกรณีอ้างว่าไปปัสสาวะแล้วตกน้ำเป็นแค่การสอบสวนประกอบรูปคดี เนื่องจากสอบแล้วพบว่าดาราสาวตกน้ำหลังจากมีการวกเรือกลับ โดยตกจากด้านซ้ายของเรือ และคาดว่าพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนแถลงปิดคดีในวันศุกร์ที่ 11 มีนาคมนี้ 


ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มกับคนที่อยู่บนเรือ ตำรวจกำลังพิจารณาแจ้งข้อหา กับนายจ็อบ กรณีเป็นคนนำขวดไวน์กลับบ้านแล้วทิ้งแก้วไวน์ลงแม่น้ำเจ้าพระยาอาจเข้าข่ายความผิดฐานช่วยเหลือสนับสนุนปกปิดการทำความผิดของผู้อื่น, ส่วนแซน อาจเข้าข่ายความผิดข้อหาประมาทเช่นเดียวกับผู้ต้องหา 2 คนแรก และการมอบสวนยังพบว่าทั้ง 5 คน มีการเตี้ยมคำให้การและปกปิดความผิด โดยอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะเข้าข่ายให้การเท็จจริงหรือไม่ 

ทั้งนี้ ในเวลา 16.00 น.ทนายความของแม่ของแตงโม จะเดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อุดร คาดว่าจะเป็นการมาหารือเรื่องการชันสูตรศพซ้ำรอบ 2 ของแตงโม เนื่องจากแม่ยังติดใจการเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย