พบรถคนร้ายปล้นร้านทองพบพระ จอดทิ้งใกล้ชายแดน

ตาก 13 ก.พ. – พบรถกระบะของ 3 คนร้ายบุกปล้นร้านทองกลางตลาด อ.พบพระ จ.ตาก จอดทิ้งเส้นทางทางมุ่งหน้าแนวชายแดนไทย-เมียนมา


จากกรณีช่วงบ่ายวานนี้ (12 ก.พ.) เกิดเหตุคนร้าย 3 คน พร้อมอาวุธปืนหลายกระบอก บุกปล้นทองภายในร้านทอง ห้างทองกรุงเทพ 4 พบพระ ถนนสายดอนเจดีย์-วาเล่ย์ หมู่ 1 ตำบลพบพระ จังหวัดตาก ใกล้กับทางเข้าออกหน้าโรงพยาบาลอำเภอพบพระ

ที่เกิดเหตุเป็นห้างทองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ย่านใจกลางอำเภอพบพระ และเป็นย่านชุมชน พบภายในร้านทองดังกล่าวถูกอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงใส่กระจกหน้าร้านเป็นรูกระสุนหลายรู ทำให้กระจกหน้าร้านแตก นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นลูกค้า ทราบชื่อคือ นายชิอาก่า อายุ 30 ปี ลูกค้าที่มาซื้อทอง ในระหว่างเกิดเหตุถูกคนร้ายยิงหน้าอกซ้าย 1 นัด ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา


ส่วนที่เคาน์เตอร์ที่แขวนทองคำรูปพรรณ ถูกคนร้ายกวาดทองไปจนเกือบหมดตู้โชว์ เจ้าหน้าที่จึงปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุ พร้อมเร่งเปิดกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามคนร้ายอย่างเร่งด่วน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเผยให้เห็นวินาทีคนร้ายคาดว่าเป็นชาย 3 คน แต่งกายคล้ายชุดชาวสวน และสวมเสื้อแขนยาวคลุมอีกหนึ่งชั้น พร้อมสวมหมวกนิรภัยเต็มใบปิดบังใบหน้า สวมรองเท้าบูททางการเกษตร คนร้ายได้ขับรถยนต์กระบะโตโยต้าตอนเดียว มาจอดหน้าร้านทอง จากนั้นคนร้ายทั้ง 3 คน ลงจากรถยนต์แล้วเปิดฉากใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาดยิงเข้าไปในร้านทองหลายนัด ขณะนั้นภายในร้านทองมีเจ้าของร้านทองยืนขายทอง 2 คน และมีลูกค้ามาซื้อทองจำนวน 3 คน โดยกระสุนของคนร้ายที่ยิงเข้าไปในร้านทองถูกลูกค้าที่มาซื้อทองบาดเจ็บสาหัส 1 คน ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากนั้นคนร้ายทั้ง 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้ใช้ค้อนตรงเข้าทุบกระจกหน้าร้านทองจนกระจกแตก แล้วคนร้ายทั้งสามรีบวิ่งเข้าไปในร้านอย่างรวดเร็ว พร้อมกวาดทองคำรูปพรรณจำนวนมาก ซึ่งตำรวจคาดว่าไม่ต่ำกว่า 100 บาท ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที คนร้ายทั้งสามก็วิ่งออกจากร้านทองตรงไปขึ้นท้ายรถยนต์กระบะที่จอดสตาร์ทเครื่องไว้ ก่อนรีบขับมุ่งหน้าแนวชายแดนไทย-เมียนมา


เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายเตรียมการมาเป็นอย่างดี และมีการทำงานอย่างทีม ตำรวจหลายชุดปฏิบัติการอยู่ระหว่างไล่ล่าตัวคนร้ายกลุ่มนี้ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะหลบหนีข้ามชายแดน

มีรายงานล่าสุดแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ชุดไล่ล่าคนร้ายพบรถยนต์กระบะคันที่คนร้ายขับมาปล้นร้านทองแล้ว แต่ไม่พบคนร้าย โดยรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บนเส้นทางบ้านผากะเจ้อ หมู่ 9 ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ห่างจุดเกิดเหตุไกลกว่า 6 กิโลเมตร และห่างจากแนวชายแดนไทย-เมียนมา ไกลกว่า 8 กิโลเมตร ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานภายในรถของกลาง พบวัตถุพยานหลักฐานหลายรายการ ความเป็นไปได้มี 2 แนวทาง คือ คนร้ายยังทิ้งรถยนต์แล้วยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่อำเภอพบพระ หรือเขตรอยต่อ 2 อำเภอแนวชายแดน อีกแนวทางคือ คนร้ายอาจหลบหนีข้ามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านช่องทางธรรมชาติ ไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สั่งย้ายครูแบทแมน

สั่งเด้ง “ครูแบทแมน” ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน

กัน จอมพลัง บุก ก.ศึกษาธิการ ร้องเอาผิดครูชายสวมหน้ากากแบทแมน ถ่ายคลิปไม่เหมาะสมในโรงเรียน จ.อุทัยธานี ล่าสุดสั่งย้าย “ผอ.โรงเรียน-ครูแบทแมน” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ด้าน “สส.ชาดา-กัน จอมพลัง” ลงพื้นที่ ขีดเส้นตายสอบเอาผิด

แม่อดีตครูสาว ยังติดใจสาเหตุ หลังพบศพในรถลานจอด รพ.

“น้องกิ๊ฟ” อดีตครูหายตัวไปเกือบ 1 เดือน พบอีกทีเป็นร่างไร้วิญญาณในรถยนต์บนลานจอดของโรงพยาบาล ญาติยังติดใจสาเหตุวอนตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิด ไขข้อสงสัย

สั่งจำคุก “อัจฉริยะ” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา คดีละเมิดอำนาจศาล

ศาลอาญาสั่งจำคุก “อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์” 2 เดือน ไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล เผยแพร่เอกสารสรุปย่อคำพิพากษาต่อสื่อมวลชนโดยไม่ได้รับอนุญาต

ข่าวแนะนำ

เคลื่อน 18 ศพเหยื่อบัสมรณะ ถึงบ้านเกิด ญาติร่ำไห้อาลัย

เจ้าหน้าที่กู้ภัยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิต 18 ราย จากเหตุรถบัสพลิกคว่ำ ถึงวัดป่าวิเวกธรรมคุณ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของญาติที่รอรับศพ

สำรวจจุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุรถบัสมรณะ 18 ศพ พบว่ารถคันดังกล่าวฝ่าฝืนคำสั่งไม่ยอมจอดพักรถและลงชื่อก่อนจุดเกิดเหตุ 1 กิโลเมตร ทำให้รถเกิดเบรกแตกไหลลงเขาจนเกิดโศกนาฏกรรม

นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ถกปราบบุหรี่ไฟฟ้า

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก “รมต.จิราพร-ผบ.ตร.” ประชุมปราบปราม “บุหรี่ไฟฟ้า” ขีดเส้น 30 วัน ดำเนินการให้เด็ดขาด สั่งเข้มห้ามขายใกล้สถานศึกษา ต้องจัดการผู้นำเข้า

รถบัสดูงานคว่ำ

เร่งหาสาเหตุรถบัสคณะดูงานบึงกาฬ พลิกคว่ำทางลงเขาศาลปู่โทน

เจ้าหน้าที่เร่งกู้ซากรถบัสคณะดูงานเทศบาลบึงกาฬ เสียหลักพลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 คน บาดเจ็บอีกจำนวนมาก พร้อมเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุ หลังมีรายงานว่าตอนลงเขารถบัสใช้ความเร็วเกิน 100 กม./ชม.