ท่าอากาศยานทหาร 2 (บน.6) ดอนเมือง 25 ม.ค.-นายกฯ พร้อมคณะบินเยือนซาอุดีอาระเบีย ฟื้นความสัมพันธ์ในรอบ 32 ปี ลุ้นข่าวดีแรงงานไทย บอกระหว่างไม่อยู่ขอทำบ้านเมืองสงบ ด้าน “สุชาติ” เล่าซาอุฯ มีบุญคุณกับครอบครัว พ่อเคยไปทำงานเมื่อปี 28
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายสุชาติ ชมกลิ่ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เดินทางจาก ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยัง ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ตามคำเชิญเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด (His Royal Highness Prince Mohammad bin Salman bin Abdulaziz Al Saud)มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นการเยือนระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี
ก่อนเดินทาง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเดินทางครั้งนี้ ถือว่าได้รับเกียรติ เป็นการเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์กว่า 32 ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าทุกอย่างจะดีขึ้น จะได้พูดคุยหารือทั้งเรื่องแรงงานและอื่นๆ รวมถึงการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทวิภาคี หรือ JC เพื่อหารือในโอกาสต่อไป และรอฟังหลังทำงานกลับ ซึ่งระหว่างนี้ทำให้บ้านเมืองสงบสุข
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า การเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียของนายกรัฐมนตรีและคณะ ถือเป็นนิมิตรหมายที่ดี ส่วนตนรู้สึกตื่นเต้นเพราะยังไม่เคยไป ซาอุฯ ถือว่ามีบุญคุณกับครอบครัวของตนเนื่องจากพ่อของตนเคยไปทำงานที่ซาอุฯ เมื่อปี 2528 ขณะนั้นตนอายุ 11 ปี ทั้งนี้ ในอดีตเคยมีแรงงานไทยเดินทางไปทำงาน 2-3 แสนคน ทำให้เกิดการแต่งเพลงถึงคนที่ไปทำงานที่นั้น ส่วนรายละเอียดการหารือนั้น รอให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ชี้แจง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางกลับในวันพรุ่งนี้ (26 ม.ค.) เวลาประมาณ 08.45 น. โดยทันทีที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย นายกรัฐมนตรีและคณะจะต้องเข้ามาตรการควบคุมโรคซีลรูททั้งการตรวจเชื้อโควิด RT- PCR สังเกตอาการ เว้นรักษาระยะห่าง เน้นการประชุมผ่านแบบ conference และตรวจ RT-PCR อีกครั้ง ในวันที่ 30 มกราคม.-สำนักข่าวไทย