กทม. 15 ม.ค.-กกต.แจกใบเหลือง “วัฒนา สิทธิวัง” ส.ส.ลำปาง พลังประชารัฐ ฟ้องศาลฎีกาสั่งเลือกตั้งใหม่ พร้อมดำเนินคดีอาญาหัวคะแนน เหตุซื้อเสียงให้ ส่วน “ธรรมนัส” รอดกรณีสัญญาว่าจะให้-ใช้ตำแหน่งหน้าที่ช่วยหาเสียง
วันที่ 14 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเว็บไซต์สำนักงาน กกต.ได้เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.กรณีมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา เพื่อสั่งให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง เขตเลือกตั้งที่ 4 ใหม่ แทนนายวัฒนา สิทธิวัง ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 133 และให้ดำเนินคดีอาญากับนางเกี๋ยงมา ปุพพโก ตามมาตรา 73( 1) ประกอบมาตรา 158 ของกฎหมายเดียวกัน จากกรณี กกต.สอบสวนแล้วเห็นว่า วันที่ 19 มิ.ย.63 ที่บ้านของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ต.ล้อมแรดอ.เถิน จ.ลำปาง นางเกี๋ยงมา ได้มอบธนบัตรซึ่งเย็บติดกันจำนวน 2 ชุดๆละ 300 บาทให้กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจริง
โดยจากการตรวจสอบคลิปวีดีโอประกอบคำร้อง ซึ่งเป็นการสนทนาระหว่างนางเกี๋ยงมา กับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง นางเกี๋ยงมาได้พูดว่า “ฝากให้แม่ด้วย” และผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งถามว่า “เบอร์อะไร” นางเกี๋ยงมา ตอบว่า “เบอร์ 1” พร้อมทั้งชูมือเป็นสัญลักษณ์หมายเลข 1 โดยไม่ปรากฏข้อความใดที่เป็นการกล่าวถึงการชำระค่าอาหาร ตามที่นางเกี๋ยงมา กล่าวอ้าง อีกครั้งจากการไต่สวนมารดาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งคนดังกล่าวให้ถ้อยคำยืนยัน ว่า ธนบัตรจำนวน 600 บาทไม่ใช่ค่าอาหาร ที่นางเกี๋ยงมาว่าจ้างให้ตนทำไปส่งให้กับน้องชายของนางเกี๋ยงมา โดยนางเกี๋ยงมา ได้มาสอบถามเกี่ยวกับจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในบ้านและมารดาของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ให้หมายเลขประจำตัวประชาชนของตนเองและบุตรชายกับนางเกี๋ยงมาไปก่อนที่จะมีการว่าจ้างให้ทำอาหาร ข้อเท็จจริงดังกล่าว จึงฟังได้ว่านางเกี๋ยงม าให้เงินจำนวน 600 บาทกับผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งดังกล่าว เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนเลือกตั้งให้กับนายวัฒนา ตามข้อกล่าวหา จึงเป็นหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่านางเกี๋ยงมา ทำให้ เสนอให้ สัญญาว่าจะให้ หรือจะเตรียมเพื่อจะให้ทรัพย์สินประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้แก่ผู้ใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่นายวัฒนา ซึ่งเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. 2561 มาตรา 73(1)โดยนายวัฒนา ได้รับประโยชน์ในการเลือกตั้งจากการกระทำของนางเกี๋ยงมา เป็นเหตุให้การเลือกตั้ง ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ลำปาง แทนตำแหน่งที่ว่าง เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.63 ไม่ได้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวเป็นการสืบสวนตามคำร้องของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และ ร.ต.ท.สมบูรณ์ กล้าผจญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 4 พรรคเสรีรวมไทยในขณะนั้น ที่มีการยื่นคำร้องภายหลังการเลือกตั้งและได้มีการส่งคลิปวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ซื้อเสียงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งดังกล่าวเป็นหลักฐานต่อ กกต.ด้วย
อย่างไรก็ตามในส่วนที่มีการร้องว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช. เกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้น ใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบ เพื่อเป็นคุณเป็นโทษให้กับผู้สมัคร สัญญาว่าจะให้ให้ทรัพย์สินจูงใจ ให้เลือกนายวัฒนา รวมทั้งหมด 4 ข้อกล่าวหานั้น กกต.เห็นว่าข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่า ร.อ.ธรรมนัส กระทำการตามที่กล่าวหา จึงมีมติให้ยกคำร้อง.-สำนักข่าวไทย