ขนย้ายเสร็จแล้ว นักโทษเรือนจำกระบี่

กระบี่ 18 ธ.ค.-ปิดฉากปฏิบัติการขนย้ายนักโทษกว่า 2,000 คน ไปเรือนจำจังหวัดใกล้เคียง ท่ามกลางญาตินักโทษที่มาติดตามจำนวนมาก จนหวิดเกิดจลาจลอีกครั้ง อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เชื่อมีนักโทษบางคนวางแผนหลบหนี เอาผิด 31 หัวโจก

จากเหตุการณ์กลุ่มนักโทษเรือนจำจังหวัดกระบี่ ก่อเหตุเผาอาคารไม้ 2 ชั้น ซึ่งเป็นเรือนนอนและห้องสมุดภายในเรือนจำได้รับความเสียหายทั้งหลัง เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 ธ.ค.64 ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายผู้ต้องขัง จำนวนกว่า 100 คน ออกไปจากเรือนจำ หลังจากนักโทษกว่า 400 คน ก่อเหตุจลาจล ตั้งแต่คืนวันที่ 16 ธ.ค. ต่อเนื่องจนถึงเช้าวันที่ 17 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่และจับกุมหัวโจกได้ 31 คน ทั้งนักโทษคดียาเสพติด และคดีอุกฉกรรจ์ ไปไว้ที่ สภ.เมืองกระบี่ ก่อนนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี โดยเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นนักโทษในเรือนจำ เจ้าหน้าที่นำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งคาดว่าวิ่งหนีไม่ทันไม้หล่นมาทับ


นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรณีนักโทษภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ก่อเหตุจลาจลเผาเรือนนอนครั้งนี้ เชื่อว่ามีนักโทษบางคนวางแผนจะหลบหนี หลังจากได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งจากการตรวจสอบกลุ่มนักโทษที่เป็นหัวโจก จำนวน 31 คน หลังจากนี้จะแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมาย และขอยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีนักโทษเสียชีวิต แต่มีบางคนได้รับบาดเจ็บจากการที่พยายามจะหลบหนี เนื่องจากถูกลวดหนามบาด หลังจากนี้จะย้ายนักโทษไปไว้ที่อื่นก่อน เพื่อทำการปรับปรุงบริเวณที่เสียหาย พร้อมประสานกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการขนย้ายนักโทษประมาณ 1,700 คน ออกจากเรือนจำจังหวัดกระบี่โดยเร็วที่สุด

ต่อมาเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 17 ธ.ค.64 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยนายภักดี แก้วเนียม ผู้บัญชาการเรือนจำภาค 8 และ พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ อุ้ยคำ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ทำการเคลื่อนย้ายนักโทษชายและนักโทษหญิง จำนวน 2,159 คน ออกจากเรือนจำจังหวัดกระบี่ และเรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อย ส่งไปยังเรือนจำจังหวัดภูเก็ต เรือนจำจังหวัดนครศรีธรรมราช และเรือนจำจังหวัดสงขลา ส่วนนักโทษหัวโจกก่อเหตุจลาจล จำนวน 31 คน ส่งไปยังเรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี โดยมีกำลังพลจากกรมทหารราบที่ 2 กองพลนาวิกโยธิน นำกำลัง 300 นาย คอยคุ้มกันรอบเรือนจำ ท่ามกลางพ่อแม่พี่น้องและญาตินักโทษในพื้นที่ จ.กระบี่ มากกว่า 200 คน มายืนอยู่ริมถนน เพื่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ตลอดเวลาว่า ญาติของตนไปอยู่ที่เรือนจำใด


ขณะที่รถยนต์ขนนักโทษรอเข้าขบวน เพื่อจะได้เดินทางไปพร้อมๆ กัน บรรดาญาตินักโทษได้กรูห้อมล้อมรถขนนักโทษ เพื่อเรียกนักโทษที่เป็นญาติ เจ้าหน้าที่เรือนจำมาห้ามปราม แต่กลับไม่พอใจ จนเกือบเกิดจลาจลขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการขนย้ายนักโทษเรือนจำจังหวัดกระบี่ได้สิ้นสุดเมื่อเวลา 03.45 น. ของวันที่ 18 ธันวาคม 2564 ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ถอนกลับที่ตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ