ทะลักไม่หยุด แรงงานต่างด้าวลอบเข้าชายแดนไทย ประจวบฯ จับได้อีก 12 คน

ประจวบคีรีขันธ์ 21 พ.ย. – สถานการณ์แรงงานต่างด้าวลอบเข้าราชอาณาจักรยังหนักหน่วง เมื่อคืนนี้ตำรวจประจวบฯ สกัดจับได้อีก 12 คน ทั้งหมดบอกว่าต้องหนีความอดอยากจากปัญหาความไม่สงบในบ้านเกิด


ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก และฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สนธิกำลังจับกุมต่างด้าวชาวเมียนมา 12 คน อายุระหว่าง 18-35 ปี ได้ที่บริเวณช่องทางธรรมชาติ “ช่องหุบตาลี” หมู่ที่ 9 บ้านมะขามโพรง ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ แบ่งเป็นชาย 7 คน หญิง 5 คน และมีผู้นำพาเป็นชาย 3 คน

จากการสอบถามแรงงานเมียนมาทั้งหมด บอกว่า หนีความยากลำบากและความอดยากจากปัญหาความไม่สงบในประเทศ แล้วมาพักรอที่บริเวณบ้านมูด่อง จากนั้นได้เดินเท้ามาจากจุดที่พักคอยบริเวณหมู่บ้านมูด่องฝั่งประเทศเมียนมา แล้วเดินข้ามชายแดนไทยมาตามแนวเทือกเขาตะนาวศรีผ่านช่องทางธรรมชาติช่องหุบตาหลี จ่ายค่าจ้างให้คนนำทางข้ามแดนคนละ 2,000 บาท เพื่อรอนายหน้ามารับ ส่วนใหญ่จะไปทำงานที่ตำบลมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงที่อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบฯ และจังหวัดนครปฐม หากถึงที่หมายจะต้องเสียเงินให้กับนายหน้าอีกคนละประมาณ 18,000 – 20,000 บาท


ทั้งนี้ เมื่อ 4 วันก่อน เจ้าหน้าที่เพิ่งจับกุมแรงงานเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองได้มากถึง 86 คน แรงงานลอตก่อนหน้านี้ได้พักคอยที่หมู่บ้านมูด่อง ฝั่งประเทศเมียนมา และเป็นจุดเดียวกันกับแรงงานลอตนี้

สกัดจับ 57 กัมพูชาลอบเข้าไทยหวังไปทำงาน กทม.
เช่นเดียวกับที่จังหวัดสระแก้ว เมื่อวาน (20 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมแรงงานต่างด้าวลอบเข้าเมืองได้ 57 คน แบ่งเป็นชาย 30 คน หญิง 20 คน และเด็ก 7 คน ได้ที่บริเวณจุดตรวจบ้านทัพเซียม หมู่ที่ 10 ตำบลตาพระยา อำเภอตาพระยา ทั้งหมดไม่พบเอกสารหรือหนังสือเดินทางแสดงตน

จากการสอบถามพบว่าเป็นชาวกัมพูชาเดินทางมาจากจังหวัดพระตะบอง, บันเตียเมียนเจย, อุดรมีชัย, เสียมเรียบ และกัมปงธม มีเป้าหมายเดินทางไปที่กรุงเทพ, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, สมุทรปราการ, นนทบุรี และปทุมธานี เพื่อไปทำงานก่อสร้าง ตกแต่งสวน และรับจ้างทั่วไป แรงงานเหล่านี้เสียค่านายหน้า 1,000 บาทต่อคน และเมื่อถึงที่หมายจะต้องเสียค่าเดินทางอีกคนละ 6,500 – 8,000 บาทต่อคน ตามระยะทาง . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง