ทำเนียบรัฐบาล 19 พ.ย.- ศบค.ระบุ 16 ม.ค.65 เวลาเหมาะสมเปิดบริการสถานบันเทิง เหตุตัวเลขติดเชื้อ-เสียชีวิตทรงตัว กระตุ้นผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการ สธ. ขึ้นทะเบียน SHA+ ย้ำกฐินวิถีใหม่ ลอยกระทงอย่างระวัง
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 วันนี้ (19 พ.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,855 ราย ติดเชื้อในประเทศ 6,619 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 224 ราย หายป่วย 7,655 ราย กำลังรักษา 89,821 ราย รักษาในโรงพยาบาล 43,676 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนามและอื่น ๆ 46,145 ราย อาการหนัก 1,686 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 397 ราย โดยแบ่งเป็น กทม. 806 ราย สงขลา 642 ราย นครศรีธรรมราช 412 ราย เชียงใหม่ 276 ราย สุราษฎร์ธานี 233 ราย สมุทรปราการ 227 ราย ชลบุรี 223 ราย ปัตตานี 222 ราย ยะลา 169 ราย และราชบุรี 142 ราย
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนผลการตรวจ ATK ที่ผลเป็นบวกสูง คือ เชียงราย 20% พิษณุโลก สระบุรี กระบี่ สงขลา พัทลุง ยะลา สตูล ผลตรวจเกิน 10% ส่วนปัตตานี นราธิวาส มีทิศทางลดลง รายงานยอดติดเชื้อลดลงเช่นกัน
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงผู้เสียชีวิตอยู่ในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคเรื้อรัง ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุด มีผู้ติดเตียงเสียชีวิต 2 ราย วันพุธที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เสียชีวิต 3 ราย มีปัจจัยเสี่ยงเป็นการติดเชื้อจากการสัมผัสคนรู้จัก คนในครอบครัว อาศัยอยู่ร่วมกันใกล้ชิด เช่น หอพักนักเรียน คนงาน แคมป์คนงานก่อสร้าง ขณะนี้มีการเดินทางท่องเที่ยวข้ามพื้นที่ จึงขอเน้นย้ำว่า ครอบครัวมีคนอยู่ร่วมกันหลายวัย มีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ต้องระมัดระวังสูงสุด โดยเฉพาะขณะนี้เปิดเทอมแล้ว ขอให้ภายในครอบครัวแยกพื้นที่ส่วนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน เพื่อลดการติดเชื้อในครอบครัว เมื่อมีบุคคลเสี่ยงสูงอายุ ป่วยติดเตียง อาจมีอาการหนักถึงขั้นเสียชีวิต
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับข้อมูลการฉีดวัคซีน มีผู้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 764,448 โดส รวมทั้งหมด 87,655,274 โดส แบ่งเป็น เข็มที่หนึ่ง 46,248,787 โดส เข็มที่สอง 38,421,936 โดส และเข็มที่สาม 2,984,551 โดส ขณะที่กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ยังฉีดวัคซีนจำนวนน้อย เพียงร้อยละ 14 เท่านั้น เนื่องจากกลัวผลข้างเคียงเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ ทั้งนี้ พบกลุ่มจังหวัดภาคใต้ได้รับวัคซีนสูงสุด โดยได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมนุม ขอเน้นย้ำเพิ่มเป้าหมายการฉีดวัคซีน
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. กำชับทุกพื้นที่เน้นการฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้กระจายวัคซีนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และขอให้จังหวัดมีกลยุทธชักชวน เชิญชวนประชาชนในพื้นที่ห่างไกลศูนย์ฉีดวัคซีน จัดทีมเดินเท้าและจัดจุดฉีดให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย โดยเน้นย้ำเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชน
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า วันนี้ยังมีรายงานการเข้าพื้นที่ผิดกฎหมาย โดยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ มีทั้งเป็นชาวไทยและกัมพูชา 2 ราย จังหวัดจันทบุรี ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก รายงานต่อเนื่องว่า จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวเปิดกิจการกิจกรรม จำเป็นต้องรับแรงงานเพื่อนบ้านมากขึ้น ศบค.ไม่ได้ห้าม แต่ขอให้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกกฎหมาย เพื่อจะได้รับการดูแล ตรวจหาโรค ตรวจเชื้อโควิด หากยังไม่ได้รับวัคซีนจะได้รับวัคซีนด้วย ถ้าลักลอบแบบผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดี
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนการจัดงานประเพณีวิถีใหม่ที่น่าชื่นชม คือ งานกฐินที่จังหวัดอุบลราชธานี โดยขอชื่นชมตั้งแต่สายการบินนกแอร์ ที่เดินทางตั้งแต่ กทม. ถึงอุบลราชธานี ที่ตรวจสอบหลักฐานการฉีดวัคซีน และระหว่างเดินทางยังย้ำเตือนสวมหน้ากากตลอดเวลา ทำความสะอาดจุดสัมผัส ไม่รับประทานอาหารบนเครื่อง กำหนดจุดที่นั่ง เว้นระยะห่างในศาลาและนอกศาลา ถ่ายทอดวิดีโอเพื่อไม่ให้หนาแน่น
“ส่วนพระที่ร่วมอยู่ในงานได้รับวัคซีนครบ 100% คนไปร่วมงานตรวจสอบหลักฐานการรับวัคซีน รวมทั้งตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วมงาน ระหว่างประกอบพิธี มีการคัดกรองอุณหภูมิ วางเจลแอลกอฮอล์ งดรับประทานอาหารร่วมกัน จัดเตรียมอาหารเป็นชุดกลับไปบ้านตัวเอง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รพ.วารินชำราบ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ ที่ตั้งจุดตรวจ ซึ่งผู้ร่วมงาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนให้ความร่วมมือ เพื่อความปลอดภัย งานพิธีกรรมประเพณียังมีอย่างต่อเนื่องหลายพื้นที่ ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวพื้นที่อากาศหนาว เห็นภาพเล่นน้ำ รับประทานอาหารร่วมกัน แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ยังเป็นผู้แพร่เชื้อหรือติดเชื้อได้ ต้องเน้นวิถีชีวิตใหม่ที่ขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก รายงานการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว มี 6 จังหวัด เชียงใหม่ กทม. บุรีรัมย์ อุดรธานี หนองคาย และเลย ที่ได้รายงานในโครงการที่นักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยไม่กักตัวจาก 61 ประเทศ และ 2 พื้นที่ บางประเทศที่ลงผลวัคซีนแบบคิวอาร์โค้ดจะสามารถอนุมัติได้ทันที แต่ประเทศที่ไม่ได้รายงานเป็นระบบคิวอาร์โค้ด จะให้กระทรวงการต่างประเทศและกรมควบคุมโรคร่วมกัน และปฏิเสธเอกสารที่ไม่ครบ ฉีดวัคซีนไม่ครบ จองโรงแรมไม่ครบ
“จึงเน้นย้ำผู้ประกอบการโรงแรม เรื่องค่าบริการโรงแรมที่พัก การตรวจ RT-PCR เมื่อมาถึง รถรับส่งจากสนามบิน และ ATK ที่ต้องแจกให้นักท่องเที่ยว ทั้งการต้องบังคับให้อยู่แพ็กเกจที่พัก เพราะมีรายงานพบนักท่องเที่ยวมีผลเป็นบวกเมื่อมาถึงประเทศไทย ซึ่งมีโรงพยาบาลคู่ในแพ็กเกจ จะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและทันท่วงที” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว
พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการเปิดกิจการของสถานบันเทิงหรือกิจการที่คล้ายกัน โดยคาดว่าเวลาที่เหมาะสมจะเปิดในวันที่ 16 มกราคม 2565 ซึ่งเมื่อชะลอ ผู้ประกอบการอาจจะได้รับผลกระทบและผิดหวัง จึงต้องหารือหลายฝ่ายอย่างรอบด้าน ตัวแทนผู้ประกอบการเองก็เข้าใจ ถือได้ว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน นอกจากเหตุผลเรื่องการแพร่ระบาดที่พบตัวเลขยังทรง ๆ ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ต่ำว่า 5,000 คน และผู้เสียชีวิตยังไม่ต่ำกว่า 50 คน
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า จากการสำรวจพบสถานบริการประเภทนี้ยังไม่ขึ้นทะเบียนมาตรฐาน SHA+ ซึ่งจากตัวเลขในพื้นที่ กทม. มีสถานประกอบการได้รับมาตราฐาน SHA+ แล้วจำนวน 7,994 แห่ง โดยในวันนี้ (18 พ.ย.) ได้รับอนุมัติจำนวน 1,216 แห่ง จากทั้งหมดที่ผ่าน มีร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมความงาม บริษัทนำเที่ยว ร้านขายของที่ระลึก ส่วนจังหวัดอื่น ๆ เช่น เชียงใหม่ มีตลาดและร้านอาหารริมบาทวิถี ผ่านมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขในเรื่อง Covid free setting ด้วย
“การเปิดหรือไม่เปิดดำเนินกิจการ ไม่ได้อยู่กับการตัดสินของ ศบค. แต่อยู่ที่ความพร้อมของสถานประกอบการของท่าน เป็นการจัดการของเจ้าของ พนักงาน และการจัดการสถานที่ให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโลก ขอให้หน่วยงานในพื้นที่ช่วยประชาสัมพันธ์ชักชวนผู้ประกอบการ และขอให้รณรงค์ให้บุคลากร พนักงานในร้านรับวัคซีน เพราะตอนนี้มีคนไทย 11 ล้านคน ยังไมได้รับวัคซีนเข็มแรก” พญ.อภิสมัย กล่าว
ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวถึงการที่องค์การอนามัยโลกเตือนการระบาดหลายประเทศในยุโรป ที่พบว่าน่าเป็นห่วง มีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ทำให้หลายประเทศประกาศปิดเมือง เช่น เนเธอร์แลนด์สั่งปิดเมืองอีกครั้ง เดนมาร์กทบทวนการกลับมาใส่หน้ากาก ขณะที่เยอรมนี สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อมากขึ้น แม้จะฉีดวัคซีนครบโดส การแพร่ระบาดอาจกลับมารุนแรงได้ เพราะผู้ฉีดวัคซีนครบก็ยังสามารถเป็นผู้ที่แพร่เชื้อได้.-สำนักข่าวไทย