ศบค.เปิดสถานบันเทิง 16 ม.ค.65  

ทำเนียบรัฐบาล 19 พ.ย.- ศบค.ระบุ 16 ม.ค.65 เวลาเหมาะสมเปิดบริการสถานบันเทิง เหตุตัวเลขติดเชื้อ-เสียชีวิตทรงตัว กระตุ้นผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการ สธ. ขึ้นทะเบียน SHA+ ย้ำกฐินวิถีใหม่ ลอยกระทงอย่างระวัง


พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 วันนี้ (19 พ.ย.) พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,855 ราย ติดเชื้อในประเทศ 6,619 ราย ติดเชื้อจากต่างประเทศ 12 ราย จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 224 ราย หายป่วย 7,655 ราย กำลังรักษา 89,821 ราย รักษาในโรงพยาบาล 43,676 ราย รักษาในโรงพยาบาลสนามและอื่น ๆ 46,145 ราย อาการหนัก 1,686 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 397 ราย โดยแบ่งเป็น กทม. 806 ราย สงขลา 642 ราย นครศรีธรรมราช 412 ราย เชียงใหม่ 276 ราย สุราษฎร์ธานี 233 ราย สมุทรปราการ 227 ราย ชลบุรี 223 ราย ปัตตานี 222 ราย ยะลา 169 ราย และราชบุรี 142 ราย 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า ส่วนผลการตรวจ ATK ที่ผลเป็นบวกสูง คือ เชียงราย 20% พิษณุโลก สระบุรี กระบี่ สงขลา พัทลุง ยะลา สตูล ผลตรวจเกิน 10% ส่วนปัตตานี นราธิวาส มีทิศทางลดลง รายงานยอดติดเชื้อลดลงเช่นกัน


พญ.อภิสมัย กล่าวถึงผู้เสียชีวิตอยู่ในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโรคเรื้อรัง ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงสุด มีผู้ติดเตียงเสียชีวิต 2 ราย วันพุธที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา เสียชีวิต 3 ราย มีปัจจัยเสี่ยงเป็นการติดเชื้อจากการสัมผัสคนรู้จัก คนในครอบครัว อาศัยอยู่ร่วมกันใกล้ชิด เช่น หอพักนักเรียน คนงาน แคมป์คนงานก่อสร้าง ขณะนี้มีการเดินทางท่องเที่ยวข้ามพื้นที่ จึงขอเน้นย้ำว่า ครอบครัวมีคนอยู่ร่วมกันหลายวัย มีผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ต้องระมัดระวังสูงสุด โดยเฉพาะขณะนี้เปิดเทอมแล้ว ขอให้ภายในครอบครัวแยกพื้นที่ส่วนที่ใช้พื้นที่ร่วมกัน เพื่อลดการติดเชื้อในครอบครัว เมื่อมีบุคคลเสี่ยงสูงอายุ ป่วยติดเตียง อาจมีอาการหนักถึงขั้นเสียชีวิต

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับข้อมูลการฉีดวัคซีน มีผู้รับการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น 764,448 โดส รวมทั้งหมด 87,655,274 โดส แบ่งเป็น เข็มที่หนึ่ง 46,248,787 โดส เข็มที่สอง 38,421,936 โดส และเข็มที่สาม 2,984,551 โดส ขณะที่กลุ่มหญิงตั้งครรภ์ยังฉีดวัคซีนจำนวนน้อย เพียงร้อยละ 14 เท่านั้น เนื่องจากกลัวผลข้างเคียงเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ ทั้งนี้ พบกลุ่มจังหวัดภาคใต้ได้รับวัคซีนสูงสุด โดยได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมนุม ขอเน้นย้ำเพิ่มเป้าหมายการฉีดวัคซีน     

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค. กำชับทุกพื้นที่เน้นการฉีดวัคซีน ซึ่งขณะนี้กระจายวัคซีนไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ และขอให้จังหวัดมีกลยุทธชักชวน เชิญชวนประชาชนในพื้นที่ห่างไกลศูนย์ฉีดวัคซีน จัดทีมเดินเท้าและจัดจุดฉีดให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย โดยเน้นย้ำเรื่องการทำความเข้าใจกับประชาชน


ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า วันนี้ยังมีรายงานการเข้าพื้นที่ผิดกฎหมาย โดยผ่านทางช่องทางธรรมชาติ มีทั้งเป็นชาวไทยและกัมพูชา 2 ราย จังหวัดจันทบุรี ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก รายงานต่อเนื่องว่า จังหวัดนำร่องท่องเที่ยวเปิดกิจการกิจกรรม จำเป็นต้องรับแรงงานเพื่อนบ้านมากขึ้น ศบค.ไม่ได้ห้าม แต่ขอให้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกกฎหมาย เพื่อจะได้รับการดูแล ตรวจหาโรค ตรวจเชื้อโควิด หากยังไม่ได้รับวัคซีนจะได้รับวัคซีนด้วย ถ้าลักลอบแบบผิดกฎหมายจะถูกดำเนินคดี

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ส่วนการจัดงานประเพณีวิถีใหม่ที่น่าชื่นชม คือ งานกฐินที่จังหวัดอุบลราชธานี  โดยขอชื่นชมตั้งแต่สายการบินนกแอร์ ที่เดินทางตั้งแต่ กทม. ถึงอุบลราชธานี ที่ตรวจสอบหลักฐานการฉีดวัคซีน และระหว่างเดินทางยังย้ำเตือนสวมหน้ากากตลอดเวลา ทำความสะอาดจุดสัมผัส ไม่รับประทานอาหารบนเครื่อง กำหนดจุดที่นั่ง เว้นระยะห่างในศาลาและนอกศาลา ถ่ายทอดวิดีโอเพื่อไม่ให้หนาแน่น

“ส่วนพระที่ร่วมอยู่ในงานได้รับวัคซีนครบ 100% คนไปร่วมงานตรวจสอบหลักฐานการรับวัคซีน รวมทั้งตรวจ ATK ก่อนเข้าร่วมงาน ระหว่างประกอบพิธี มีการคัดกรองอุณหภูมิ วางเจลแอลกอฮอล์ งดรับประทานอาหารร่วมกัน จัดเตรียมอาหารเป็นชุดกลับไปบ้านตัวเอง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด รพ.วารินชำราบ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ ที่ตั้งจุดตรวจ ซึ่งผู้ร่วมงาน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนให้ความร่วมมือ เพื่อความปลอดภัย งานพิธีกรรมประเพณียังมีอย่างต่อเนื่องหลายพื้นที่ ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวพื้นที่อากาศหนาว เห็นภาพเล่นน้ำ รับประทานอาหารร่วมกัน แม้จะฉีดวัคซีนแล้วก็ยังเป็นผู้แพร่เชื้อหรือติดเชื้อได้ ต้องเน้นวิถีชีวิตใหม่ที่ขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวว่า ที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก รายงานการเปิดเมืองรับนักท่องเที่ยว มี 6 จังหวัด เชียงใหม่ กทม. บุรีรัมย์ อุดรธานี หนองคาย และเลย ที่ได้รายงานในโครงการที่นักท่องเที่ยวเข้าประเทศโดยไม่กักตัวจาก 61 ประเทศ และ 2 พื้นที่ บางประเทศที่ลงผลวัคซีนแบบคิวอาร์โค้ดจะสามารถอนุมัติได้ทันที แต่ประเทศที่ไม่ได้รายงานเป็นระบบคิวอาร์โค้ด จะให้กระทรวงการต่างประเทศและกรมควบคุมโรคร่วมกัน และปฏิเสธเอกสารที่ไม่ครบ ฉีดวัคซีนไม่ครบ จองโรงแรมไม่ครบ

“จึงเน้นย้ำผู้ประกอบการโรงแรม เรื่องค่าบริการโรงแรมที่พัก การตรวจ RT-PCR เมื่อมาถึง รถรับส่งจากสนามบิน และ ATK ที่ต้องแจกให้นักท่องเที่ยว ทั้งการต้องบังคับให้อยู่แพ็กเกจที่พัก เพราะมีรายงานพบนักท่องเที่ยวมีผลเป็นบวกเมื่อมาถึงประเทศไทย ซึ่งมีโรงพยาบาลคู่ในแพ็กเกจ จะทำให้นักท่องเที่ยวได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและทันท่วงที” ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าว

พญ.อภิสมัย กล่าวถึงการเปิดกิจการของสถานบันเทิงหรือกิจการที่คล้ายกัน โดยคาดว่าเวลาที่เหมาะสมจะเปิดในวันที่ 16 มกราคม 2565 ซึ่งเมื่อชะลอ ผู้ประกอบการอาจจะได้รับผลกระทบและผิดหวัง จึงต้องหารือหลายฝ่ายอย่างรอบด้าน ตัวแทนผู้ประกอบการเองก็เข้าใจ ถือได้ว่าเป็นความรับผิดชอบร่วมกัน นอกจากเหตุผลเรื่องการแพร่ระบาดที่พบตัวเลขยังทรง ๆ ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังไม่ต่ำว่า 5,000 คน และผู้เสียชีวิตยังไม่ต่ำกว่า 50 คน 

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวว่า จากการสำรวจพบสถานบริการประเภทนี้ยังไม่ขึ้นทะเบียนมาตรฐาน SHA+ ซึ่งจากตัวเลขในพื้นที่ กทม. มีสถานประกอบการได้รับมาตราฐาน SHA+ แล้วจำนวน 7,994 แห่ง โดยในวันนี้ (18 พ.ย.) ได้รับอนุมัติจำนวน 1,216 แห่ง จากทั้งหมดที่ผ่าน มีร้านอาหาร โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมความงาม บริษัทนำเที่ยว ร้านขายของที่ระลึก ส่วนจังหวัดอื่น ๆ เช่น เชียงใหม่ มีตลาดและร้านอาหารริมบาทวิถี ผ่านมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขในเรื่อง Covid free setting ด้วย 

“การเปิดหรือไม่เปิดดำเนินกิจการ ไม่ได้อยู่กับการตัดสินของ ศบค. แต่อยู่ที่ความพร้อมของสถานประกอบการของท่าน เป็นการจัดการของเจ้าของ พนักงาน และการจัดการสถานที่ให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งโลก ขอให้หน่วยงานในพื้นที่ช่วยประชาสัมพันธ์ชักชวนผู้ประกอบการ และขอให้รณรงค์ให้บุคลากร พนักงานในร้านรับวัคซีน เพราะตอนนี้มีคนไทย 11 ล้านคน ยังไมได้รับวัคซีนเข็มแรก” พญ.อภิสมัย กล่าว

ผู้ช่วยโฆษก ศบค. กล่าวถึงการที่องค์การอนามัยโลกเตือนการระบาดหลายประเทศในยุโรป ที่พบว่าน่าเป็นห่วง มีอัตราการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 ทำให้หลายประเทศประกาศปิดเมือง เช่น เนเธอร์แลนด์สั่งปิดเมืองอีกครั้ง เดนมาร์กทบทวนการกลับมาใส่หน้ากาก ขณะที่เยอรมนี สหราชอาณาจักร พบผู้ติดเชื้อมากขึ้น แม้จะฉีดวัคซีนครบโดส การแพร่ระบาดอาจกลับมารุนแรงได้ เพราะผู้ฉีดวัคซีนครบก็ยังสามารถเป็นผู้ที่แพร่เชื้อได้.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย

รวบยกแก๊ง 4 ชาวอังกฤษขับรถชิงทรัพย์ชาวอเมริกัน

ภูเก็ต 19 ก.ย. – วานนี้มีเหตุอุกอาจกลางเมืองภูเก็ต กลุ่มชายฉกรรจ์ขับรถชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายก่อนลงไปชิงนาฬิกาหรู มูลค่ากว่า 2 ล้าน เช้านี้ตำรวจรวบผู้ก่อเหตุได้ครบ เชื่อวางแผนทำกันเป็นขบวนการ.-สำนักข่าวไทย

ไทยยึดหลักสากล จัดการปมบ้านหนองหญ้าแก้ว

กระทรวงการต่างประเทศ 19 ก.ย.- “อนุทิน” แจงประธานอาเชียน เหตุบ้านหนองหญ้าแก้ว ไทยยืนยันยึดหลักสากล จัดการปัญหา กัมพูชาขัดข้อตกลงหยุดยิง ใช้ประชาชนเป็นโล่มนุษย์ ไร้มนุษยธรรม ไม่สร้างสรรค์ บิดเบือนข้อเท็จจริง พร้อมเรียกร้องกัมพูชาแสดงความจริงใจในการแก้ปัญหา นายนิกรเดช พลางกูล อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ที่มีการรื้อถอนสิ่งกีดขวางของฝ่ายไทย และมีการปะทะจนมีเจ้าหน้าที่ไทยได้รับบาดเจ็บ ซึ่งถือเป็นการทำผิดกฎหมายไทยหลายมาตรา โดยย้ำว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดทุกประการมาโดยตลอด ข้อตกลงนี้เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะปูทางไปสู่สันติภาพ แม้สถานการณ์สงบลง แต่กัมพูชายังยั่วยุในรูปแบบต่างๆ ซึ่งขัดข้อตกลงหยุดยิง พร้อมย้ำว่าการวางเครื่องกีดขวางเสริมความมั่นคง เป็นการดำเนินการในอธิปไตยของไทยอย่างชัดเจน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยอดกลั่น และใช้เวลาชี้แจงกับประชาชนกัมพูชา แต่ไม่เป็นผล ที่สุดเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนของไทยต้องเข้าระงับเหตุตามหลักสากล ตามหลักมนุษยชนการปลุกระดมให้ประชาชนมาเป็นโล่มนุษย์ ขัดกฎหมายระหว่างประเทศ ไร้มนุษยธรรม ขาดความรับผิดชอบ ไม่สร้างสรรค์ และไม่ยึดถือประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนเป็นที่ตั้ง นอกจากนี้ ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นหยุดยิงไปแล้ว แต่กัมพูชาเลือกเส้นทางจากต่างไทยโดยสิ้นเชิง ไทยมุ่งมั่นแสวงหาสันติภาพ ซึ่งต่างจากกัมพูชาที่แสวงหาความรุนแรง การวางรั้วลวดหนามของฝ่ายไทย เป็นไปเพื่อป้องกันการปะทะ และเพื่อสร้างความปลอดภัยของประชาชนทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ และเหตุความรุนแรงอาจนำไปสู่การสูญเสีย […]