กลุ่มผู้ชุมนุมรวมตัวหน้าสถานทูตเยอรมนี

กรุงเทพฯ 14 พ.ย.- การชุมนุมใหญ่วันนี้ มีการย้ายสถานที่นัดหมายจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปที่แยกปทุมวัน ก่อนเคลื่อนขบวนไปสถานทูตเยอรมนี ถนนสาทรใต้ระหว่างทางเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน 


เวลา 16.00 น. ผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังสถานทูตเยอรมนี 

เวลา 17.00 น. มวลชนเคลื่อนขบวนถึงบริเวณเเยกเฉลิมเผ่า โดยมีตำรวจควบคุมฝูงชน พร้อมรถจีโน่ 1 คัน ตรึงกำลังเตรียมความพร้อมอยู่ มีการปะทะกันเล็กน้อย ก่อนที่ตำรวจจะเปิดทางให้ผ่านเเยกเฉลิมเผ่าได้ เเต่ไม่อนุญาตให้ผ่านหน้าสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ โดยให้เลี้ยวขวาไปทางสามย่าน 


เวลา 17.15 น. มวลชนมีการปะทะกับตำรวจควบคุมฝูงชน ที่ตรึงกำลังอยู่บริเวณด้านหน้าสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ โดยฝั่งผู้ชุมนุมมีการขว้างประทัดใส่เจ้าหน้าที่ ส่วนเจ้าหน้าที่ตอบโต้ด้วยกระสุนยาง ใช้เวลาปะทะกันไม่ถึง 5 นาที เจ้าหน้าที่ได้ถอยเข้าโรงพยาบาลตำรวจ โดยหลังจากการปะทะสิ้นสุดลง พบว่ามีผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ถูกอาวุธไม่ทราบชนิดเข้าบริเวณหน้าท้อง มีเลือดออก ก่อนถูกนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน 

เวลา 18.40 น. เกิดเสียงดังคล้ายประทัด บริเวณสะพานไทย-เบลเยียม แยกวิทยุ มีผู้บาดเจ็บ 

ต่อมาเวลา 18.00 น. พบว่ากำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและ คฝ. ประมาณ 450 นาย ยืนกั้นอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้าของสถานทูตเยอรมันประจําประเทศไทย ขณะเดียวกันพบว่าบรรดากลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มที่จะเดินมาถึงบริเวณหน้าสถานทูตเยอรมันแล้วบางส่วน


แกนนำมีการอ่านแถลงการณ์ให้แก่เจ้าหน้าที่ โดยมีแกนนำ 3 คน เข้าไปยื่นหนังสือด้านใน โดยแกนนำบอกว่าต้องการให้ข้อเรียกร้องโด่งดังไประดับโลก

ซึ่งการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ในช่วงเเรกตอนที่เคลื่อนมาถึง กลุ่มจักรยานยนต์ที่เป็นด่านหน้ามีการบีบเเตรและส่งเสียงมาตลอดเส้นทาง ต่อมาเมื่อเเกนนำหลักและผู้ชุมนุมที่เหลือมาถึงก็ให้ความร่วมมือทำกิจกรรมกันอย่างสันติ

เวลา 18.53 น. เเกนนำประกาศยุติชุมนุม 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย