5 พ.ย. – ทุกข์ชาวนา น้ำก็ท่วม ข้าวที่เก็บเกี่ยวก็ไม่ได้ราคา เฉลี่ยกิโลกรัมละแค่ 6 บาท ขาดทุนหนัก วอนรัฐบาลเข้ามาดูแลรับประกันราคาข้าว
บริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้านและลานหน้าบ้าน บ้านน้ำจ่อย ต.เลิงใต้ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม เกษตรกรพากันเร่งนำข้าวเปลือกมาตากแดด หลังเก็บเกี่ยวหนีน้ำท่วม เพื่อนำไปขายและเก็บไว้กินในครัวเรือน เพราะโรงสีไม่รับซื้อข้าวเปลือกเปียกน้ำ
นางละออง ศรีผ่อง เล่าว่า น้ำก็เข้าท่วมนา ต้องเร่งเก็บเกี่ยวไว้กินและนำไปขายกับโรงสีข้าว ซึ่งให้ราคาเพียงกิโลกรัมละ 7.20 บาท ข้าว 12 ไร่ ได้เงินเพียง 30,000 บาท ไม่คุ้มกับที่ลงทุนไปกว่า 50,000 บาท ทั้งจ้างไถ เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ยเคมี จ้างเก็บเกี่ยว จนถึงจ้างรถไปขาย จึงอยากในรัฐบาลเข้ามาดูแล เพราะราคาปุ๋ยสูงมาก แต่ราคาข้าวตกต่ำ ข้าวเหนียวเหลือกิโลกรัมละ 5-6 บาท ข้าวหอมมะลิกิโลกรัมละ 8-9 บาท อยู่ที่โรงสีจะประเมินราคาให้เท่าไร แถมต้องตากให้แห้งก่อนด้วย
เช่นเดียวกับที่จังหวัดนครราชสีมา ชาวนาถึงกับท้อใจ ข้าวเปลือกขายได้ราคาเพียงกิโลกรัมละ 5 บาท เท่าบะหมี่ 1 ซอง เนื่องจากผลกระทบน้ำท่วมขังในนาข้าวมานานกว่า 1 เดือน ทำให้เมล็ดข้าวด้อยคุณภาพ ลีบ มีรอยด่างคล้ำ ผลผลิตไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย จนต้องเร่งเก็บเกี่ยว นำมาตากแดดให้แห้ง 3-4 วัน จึงนำไปขาย แต่ก็ถูกโรงสีกดราคาอีก จากปกติกิโลกรัมละ 10-12 บาท เหลือแค่ 5-6 บาทเท่านั้น
นายชาญวิทย์ การณ์สูงเนิน ชาวนา ต.โค้งยาง อ.สูงเนิน บอกว่าปีนี้ยากลำบากมาก ปลูกข้าวพันธุ์ กข 79 จำนวน 12 ไร่ ผลผลิตถูกน้ำท่วมขัง เมล็ดข้าวมีความชื้นสูง ถูกโรงสีตำหนิ ข้าวไม่ได้คุณภาพ กดราคารับซื้อเหลือกิโลกรัมละ 5.50 บาท สูงสุดเพียง 6.50 บาท พอ ๆ กับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ซอง รู้สึกเหนื่อย ท้อใจ แต่จำเป็นต้องขาย เพราะมีภาระหนี้สินและค่าใช้จ่าย อยากให้นายกรัฐมนตรีช่วยเหลือชาวนาโดยประกันราคาให้สูงขึ้นกิโลกรัมละ 8-10 บาท น่าจะพออยู่ได้
อย่างไรก็ตาม มีข่าวดี ล่าสุดที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์แจ้งถึงเกษตรกรผู้ปลูกข้าวสบายใจได้ ธ.ก.ส.เตรียมจ่ายเงินส่วนต่างงวดแรกในโครงการประกันรายได้ข้าวปี 3 คาดว่าธนาคารจะโอนเย้าบัญชีเกษตรกรได้วันที่ 9 พ.ย.2564
สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2564/65 รอบที่ 1 ลงวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 การชดเชยส่วนต่างให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2564/65 ที่ระบุเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 15 ตุลาคม 2564 ข้าวเปลือกชนิดต่าง ๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15 % ดังนี้ คือ
-ข้าวเปลือกหอมมะลิ 10,864.23 บาท/ตัน ชดเชย 4,135.77 บาท/ตัน
-ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 10,407.75 บาท/ตัน ชดเชย 3,595.25 บาท/ตัน
-ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 9,947.87 บาท/ตัน ชดเชย 1,052.13 บาท/ตัน
-ข้าวเปลือกเจ้า 8,065.38 บาท/ตัน ชดเชย 1,934.62 บาท/ตัน
-ข้าวเปลือกเหนียว 7,662.53 บาท/ตัน ชดเชย 4,337.47 บาท/ตัน . – สำนักข่าวไทย