ไฟไหม้โรงงานพลาสติกในนิคมฯ นวนคร วอดเกือบ 100 ล้าน

ปทุมธานี 26 ต.ค. – เพลิงไหม้โรงงานผลิตโฟม เม็ดพลาสติก พลาสติกบรรจุภัณฑ์ ภายในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ความเสียหายคาดเกือบ 100 ล้านบาท


วันนี้ เวลา 16.20 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานบริษัท โปลิโฟมเท็คส์ จำกัด ตั้งอยู่ภายในเขตนิคมอุตสาหกรรมนวนคร ถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองท่าโขลง และสถานที่ใกล้เคียง เข้าระงับเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานประกอบกิจการค้าและผลิตโฟม เม็ดพลาสติก พลาสติกบรรจุภัณฑ์ ฉนวนกันความร้อน ในเนื้อที่ 3 ไร่ มีพนักงานทำงานอยู่จำนวน 60 คน พบแสงเพลิงและกลุ่มควันสีดำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ามองเห็นได้จากระยะไกล เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องเร่งฉีดน้ำสกัดเพลิงเพื่อไม่ให้ลุกลามภายในโรงงาน แต่เชื้อเพลิงเป็นโฟมและแกนกระดาษ ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว และป้องกันไม่ให้เพลิงลุกไหม้ไปยังโกดังเก็บสินค้าที่อยู่ทางด้านทิศใต้ รถดับเพลิงต้องเร่งช่วยกันฉีดน้ำสกัดเพลิง ล่าสุดเวลา 17.15 น. เจ้าหน้าที่จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด โดยไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต คาดว่าค่าเสียหายเกือบ 100 ล้านบาท


นายณัฐวัฒน์ สภาภักดิ์ อายุ 33 ปี ช่างประจำโรงงาน เปิดเผยว่า ต้นเพลิงเกิดจากด้านในโรงงาน ขณะนั้นมีช่างเชื่อมโรงหลังคาอยู่ด้านในและคนงานก็ทำงานอยู่ปกติ พนักงานในบริษัทเห็นไฟไหม้จึงตะโกนเรียกขอความช่วยเหลือ ก่อนที่พนักงานจะพากันวิ่งออกมาในที่ปลอดภัย

นายสรันด์ คูสกุล อายุ 61ปี ช่างผู้รับเหมาที่เข้ามาต่อเติมโครงสร้างหลังคา ให้การว่า ตนเองพร้อมคนงานจำนวน 4 คน เข้ามาต่อโรงหลังคาของบริษัทด้านในโรงงาน โดยมีการจัดเตรียมสถานที่ให้ปลอดภัย และมีการป้องกันอันตราย ขณะที่อยู่ระหว่างเชื่อมมีพนักงานตะโกนว่าไฟไหม้ ตนเองจึงลงจากโครงสร้างมาดู พบว่าเพลิงไหม้อีกห้องหนึ่ง ซึ่งมีกำแพงกั้นและไม่ใช่จุดที่ตนเองเชื่อมโรงหลังคาอยู่ จึงช่วยกันกับพนักงานใช้ถังเคมีดับเพลิงฉีด แต่ไม่สามารถดับไฟได้ จึงประสานเจ้าหน้าที่ดับเพลิง

พ.ต.ท.ยศวัฒน์ นิติรัฐพัฒนคุณ สว.สอบสวน สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ บันทึกภาพเป็นหลักฐาน และสอบปากคำพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์เบื้องต้น และกั้นพื้นที่เพื่อรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเขต 1 อย่างละเอียด หาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริง เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำการโดยประมาทต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง