กรงุเทพฯ 25 ต.ค. – ลูกค้าธนาคารโวยยังไม่ได้เงินคืน ด้าน ธปท.แจงคืนเงินเดบิตที่มีการตัดเงินผิดปกติ 1-17 ต.ค.64 ผ่านร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศ ที่ไม่มี OTP หากเกิดหลัง 17 ต.ค. ธนาคารจะคืนภายใน 5 วันทำการ ยืนยันเป็นมาตรการแก้ไขเร่งด่วนเพื่อลดผลกระทบประชาชน
หลังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย ชี้แจงกรณีการตัดเงินที่ผิดปกติผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตของลูกค้าที่เกิดจากมิจฉาชีพสุ่มข้อมูลบัตรและนำไปสวมรอยทำธุรกรรมระหว่างวันที่ 1 – 17 ตุลาคม 2564 มีบัตรของธนาคารจำนวน 10,700 ใบ ว่า มูลค่ารวมประมาณ 130 ล้านบาท มีการคืนเงินให้แก่ลูกค้าบัตรเดบิตที่ได้รับความเสียหายครบทุกรายแล้ว ส่วนบัตรเครดิตได้ดำเนินการตั้งพัก เร่งตรวจสอบ และยกเลิกรายการ โดยลูกค้าไม่ต้องชำระเงินตามยอดเรียกเก็บที่ผิดปกติและไม่มีการคิดดอกเบี้ย แต่ปรากฏว่ามีลูกค้าบัตรเดบิตธนาคารหลายแห่งออกมาระบุว่ายังไม่ได้รับเงินคืน หรือได้ไม่ครบตามจำนวนที่ถูกหัก จึงเกิดข้อสงสัยถึงกระบวนการดำเนินการคืนเงิน
ธปท.ชี้แจงต่อข้อสงสัยดังกล่าวว่า การคืนเงินเป็นกรณีบัตรที่มีการใช้งานผิดปกติ โดยการสุ่มข้อมูลบัตรและนำไปสวมรอยทำธุรกรรมผ่านร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศที่ไม่มีระบบให้ทำการยืนยันก่อนทำรายการ เช่น การใช้ One Time Password (OTP) ซึ่งเกิดขึ้นระหว่าง 1 – 17 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา จำนวนรวม 10,700 ใบ ประกอบด้วย
-บัตรเดบิตจำนวน 4,800 ใบ จำนวนเงิน 30 ล้านบาท ธนาคารได้ดำเนินการคืนเงินเข้าบัญชีของลูกค้าหมดแล้ว
– บัตรเครดิต 5,900 ใบ จำนวน 100 ล้านบาท ได้ดำเนินการตั้งพักยอด และจะดำเนินการยกเลิกรายการ โดยลูกค้าไม่ต้องชำระเงินตามยอดเรียกเก็บที่ผิดปกติและไม่มีการคิดดอกเบี้ย
ดังนั้น ลูกค้าบัตรเดบิตต้องได้รับเงินคืนเข้าบัญชีก่อนวันที่ 23 ตุลาคม 2564 หากยังไม่ได้รับเงินคืน อาจเป็นกรณีที่เกิดภายหลัง 17 ต.ค. ซึ่งธนาคารจะดำเนินการคืนเงินภายใน 5 วัน หลังจากวันที่ตรวจสอบพบ เนื่องจากเป็นกรณีธุรกรรมที่ผิดปกติจำนวนมาก จึงมีมาตรการแก้ไขเร่งด่วนเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน ส่วนกรณีธุรกรรมผิดปกติรูปแบบอื่น ๆ ธนาคารจะเร่งประสานกับผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรเดบิต (Card Scheme) และร้านค้าปลายทางโดยเร็ว นอกเหนือจากกรณีข้างต้น ยังมีธุรกรรมทุจริตอีกหลายรูปแบบ ซึ่งประเภทของความเสียหายอาจต่างกรณีกัน ธนาคารจึงจำเป็นต้องพิจารณารูปแบบและข้อเท็จจริงเพิ่มเติมก่อนดำเนินการคืนเงิน
ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่าการดำเนินการคืนเงินภายใน 5 วัน จะเป็นมาตรฐานตลอดไปหรือไม่ ธปท.ชี้แจงว่า เนื่องจากเป็นกรณีธุรกรรมที่ผิดปกติจำนวนมาก จึงมีมาตรการแก้ไขเร่งด่วนเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน อย่างไรก็ตามการทุจริตมีหลายรูปแบบ ซับซ้อนแตกต่างกัน ธปท. และสมาคมธนาคารไทยจะปรับปรุงการดำเนินการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นมาตรฐานทั้งระบบ โดยจะคำนึงถึงประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
ยืนยันการทำธุรกรรมออนไลน์ของธนาคารมีความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยจากข้อมูลล่าสุด อัตราการทำธุรกรรมทุจริตผ่านบัตรชำระเงิน (เดบิต/เครดิต) ของไทยอยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาค และหากมีการทุจริตที่ลูกค้าไม่เกี่ยวข้อง ธนาคารจะเป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ ธนาคารจะร่วมมือกับ ธปท. และผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรในการยกระดับการป้องกัน ในเรื่องการเฝ้าระวัง ตรวจสอบ ป้องกัน และดูแลรับผิดชอบความเสียหายอย่างต่อเนื่อง และ ประชาชนผู้ใช้บริการควรเฝ้าระวังและหมั่นตรวจสอบธุรกรรมของตนเองหรือทำการปรับวงเงินที่ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคารด้วย หากมีข้อสงสัยขอให้ลูกค้าติดต่อผ่านช่องทางบริการต่าง ๆ ของธนาคารผู้ออกบัตรเพื่อความรวดเร็ว กรณีไม่ได้รับความสะดวกสามารถติดต่อศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธปท. (โทร. 1213) เพื่อประสานส่งข้อมูลและหลักฐานให้กับธนาคารต่อไป.- สำนักข่าวไทย
