กรุงเทพฯ 23 ต.ค. – อธิบดีกรมชลประทานระบุสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและป่าสักมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากน้ำเหนือทรงตัวและจะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง สั่งโครงการชลประทานทุกแห่งเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างเต็มศักยภาพ
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานเปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มดีขึ้นเนื่องจากน้ำเหนือที่ไหลมายังจ.นครสวรรค์ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่สถานีวัดน้ำท่า C.2 อ.เมืองนครสวรรค์มีน้ำไหลผ่าน 2,592 ลบ.ม./วินาที ลดลงจากเมื่อวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 2,644 ลบ.ม./วินาที แต่ที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาทมีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,766 ลบ.ม./วินาทีเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 2,758 ลบ.ม./วินาที ทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
สำหรับสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำป่าสัก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างลดลงและได้ปรับลดการระบายน้ำให้อยู่ในอัตรา 600 ลบ.ม./วินาที ส่วนที่เขื่อนพระราม 6 ปรับลดการระบายน้ำให้อยู่ในอัตรา 693 ลบ.ม./วินาที เพื่อแบ่งเบาปริมาณน้ำที่จะไหลเข้าสู่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียง
นายประพิศกล่าวต่อว่า ขณะนี้ปริมาณฝนทางตอนบนของประเทศลดลงแล้ว โดยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูแล้งในวันที่ 1 พ.ย. ปริมาณน้ำเหนือที่ลดลงจะส่งผลให้ระดับน้ำด้านท้ายของลุ่มน้ำต่างๆ ทยอยลดลง โดยกรมชลประทานจะใช้ระบบชลประทานในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่างร่วมบริหารจัดการได้แก่ รับน้ำเข้าสู่คลองระพีพัฒน์ พร้อมกันนี้ใช้ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สมุทรปราการเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน .-สำนักข่าวไทย