เร่งแกะรอยชาวต่างชาติอันตรายหวังฆ่า-ขืนใจสาว

ขอนแก่น 1 ต.ค.-ชายชาวต่างชาติ พยายามข่มขืน-ทำร้ายร่างกายสาวร้านนวด อาการสาหัส ก่อนหลบหนี ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น เร่งแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ตามตัวมาดำเนินคดี


จากกรณีที่เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 โพสต์ภาพชายชาวต่างชาติ นั่งอยู่ภายในร้านนวดแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น พร้อมข้อความระบุว่า “บุคคลอันตราย..พบเจอแจ้ง จนท.จับตัวได้เลย เตือนภัยบุคคลอันตราย ที่ร้านนวด ถนนเส้นหลังอาชีวะ น้องพนักงานนวด ถูกฝรั่ง พยายามฆ่า และข่มขืน ท่านใดพบเห็นบุคคลในรูป ให้ระวังตัวด้วยนะครับ ตอนนี้ได้แจ้งความไว้แล้ว”

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านที่เกิดเหตุ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พบว่าร้านถูกปิดไว้ โดยได้สอบถามหญิงรายหนึ่ง อยู่ในวันเกิดเหตุ ทราบว่า ปกติจะพบเห็นน้องหญิง (นามสมมุติ) ผู้เสียหายมาทำงานทุกวัน มีทักทายกันบ้างแต่ไม่สนิทกัน ในร้านนวดจะมีทำงานอยู่ด้วยกันสองคนคือน้องหญิงกับเพื่อน แต่เดือนที่ผ่านมาเพื่อนที่ทำงานด้วยกันลาออก ทำให้น้องหญิง ทำงานอยู่เพียงลำพัง


เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2564 เห็นชายชาวต่างชาติคนเดียวกับที่ปรากฏในภาพ ขี่รถจักรยานยนต์คันใหญ่ มาจอดหน้าร้าน ก่อนจะเดินเข้าไปในร้าน แต่ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะคิดว่าลูกค้ามาใช้บริการตามปกติ พอมาดูอีกทีก็เห็นว่ารถจักรยานยนต์คันที่จอดหน้าร้านไม่เห็นแล้ว ระหว่างนั้นสังเกตเห็นน้ำประปาไหลออกมาจากหน้าร้านนวด ตนจึงเดินไปดูใกล้ๆ พบว่าน้ำไหลออกมาปนกับเลือดสีจางๆ ด้วยความตกใจไม่กล้าเปิดเข้าไปดู จึงโทรไปแจ้งเจ้าของร้าน ทางเจ้าของร้านจึงเปิดดูกล้องวงจรปิดผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ตรวจสอบภายในร้าน ก่อนพบน้องหญิง นอนอยู่ในสภาพเปลือยกายและมีเลือดไหล เจ้าของร้านบอกตนพังประตูเข้าไปดูเลย แต่ตนไม่กล้าเข้าไป จึงแจ้ง 1669 พร้อมกับให้ลูกชายเจ้าของร้านมาเปิดประตูเข้าไปภายในร้าน ช่วยคนเจ็บส่งโรงพยาบาล

ด้านพันตำรวจเอกปรีชา เก่งสารีกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น เผยว่า หลังได้รับแจ้งได้ให้ชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที เพื่อหาพยานหลักฐานจากพยานในที่เกิดเหตุและภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด เพราะเป็นพฤติการณ์โหดร้าย และเกรงว่าจะไปก่อเหตุกับบุคคลอื่นในลักษณะเดียวกันอีก ส่วนอาการผู้บาดเจ็บขณะนี้ยังอยู่ในห้องไอซียู.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”