ลพบุรี 30 ก.ย. – น้ำป่าจากจังหวัดเพชรบูรณ์ยังคงไหลลงสู่เขื่อนป่าสัก สมทบกับน้ำที่ระบายจากน้ำท่วมในจังหวัดลพบุรี ทำให้อ่างเก็บน้ำเขื่อนป่าสักใกล้เต็มความจุเก็บกัก กรมชลประทานปรับเพิ่มการระบายท้ายเขื่อนเพื่อให้มีพื้นที่รองรับน้ำจากทางตอนบนที่จะไหลลงมาอีก แต่ควบคุมให้เกิดผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนให้น้อยที่สุด
นายสุรัช ธนูศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 10 กล่าวว่า น้ำป่าไหลลงอ่างเก็บน้ำของเขื่อนป่าสักอย่างรวดเร็วและเป็นปริมาณมาก จาก วันที่ 22 ก.ย. มีเพียง 427 ล้าน ลบ.ม. หรือ 44 % ของความจุอ่าง เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) น้ำเกือบเต็มอ่างฯ มีปริมาณ 950 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 99 % จึงต้องเพิ่มปริมาณการระบายเพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน รวมทั้งให้มีพื้นที่รองรับน้ำจากทางจังหวัดเพชรบุรีและลพบุรีที่จะไหลลงมาอีก
สำหรับแผนการระบายน้ำ จะทยอยเพิ่มเป็นลำดับ ซึ่งจะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักด้านท้ายเขื่อนเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 1 – 1.50 เมตร ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำป่าสักคือ จังหวัดสระบุรีได้แก่ บริเวณ ต.แสลงพัน อ.วังม่วง ตลาดน้ำต้นตาล อ.เสาไห้ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้แก่ บริเวณเทศบาลตำบลท่าเรือ อ.ท่าเรือ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าการระบายน้ำจากเขื่อนลงสู่แม่น้ำป่าสัก จะระบายให้อยู่ในเกณฑ์ที่แม่น้ำป่าสักด้านท้ายน้ำสามารถรองรับน้ำได้ โดยไม่ล้นคันกั้นน้ำของแม่น้ำป่าสัก จากนั้นจะใช้เขื่อนพระราม 6 ควบคุมการระบายน้ำให้อยู่ในเกณฑ์ 700 ลบ.ม./วินาที เพื่อป้องกันผลกระทบกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่องแล้ว หากจะมีการระบายน้ำเพิ่มจะแจ้งให้ทราบต่อไป จึงขอให้ประชาชนติตตามสถานการณ์น้ำในระยะนี้อย่างใกล้ชิดด้วย.-สำนักข่าวไทย