ค้นคอนโดอดีต ผกก.โจ้ พบอุปกรณ์เสพยา – ยาบางชนิด

นครสวรรค์ 2 ก.ย.-อัยการเดินหน้าสอบอดีต ผกก.โจ้ และพวก ถึงเรือนจำพิษณุโลก หลังตำรวจค้นคอนโดและบ้านผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เจอสิ่งของที่นำไปขยายผลเชื่อมโยงพฤติกรรมแห่งคดีได้


คดีพันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ อดีต ผกก.โจ้ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาเสียชีวิต กองปราบ และตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ยังเดินหน้าหาหลักฐานเชื่อมโยงพฤติการณ์ของอดีต ผกก.โจ้และพวก โดยเฉพาะประเด็นที่อดีต ผกก.โจ้ อ้างว่าเป็นไบโพลาร์ รวมถึงประเด็นยาเสพติดที่อาจมีซุกซ่อนอยู่ ซึ่งล่าสุด กองปราบ บุกค้นคอนโดของอดีต ผกก.โจ้ ที่ใช้พักขณะทำงานอยู่ในตัวเมืองนครสวรรค์ โดยคอนโดนี้อยู่ใจกลางเมืองนครสวรรค์ ริมอุทยานสวรรค์ ความสูง 8 ชั้น ห้อง อดีต ผกก.โจ้ มีขนาด 32 ตารางเมตร เจ้าตัวเช่าพักเดือนละ 6,500 บาท มาตั้งแต่ปลายปี 63 แต่ไม่กี่วันก่อน ญาติๆ มาขอยกเลิกสัญญาเช่าไปแล้ว ส่วนภายในห้องมีอุปกรณ์เครื่องใช้อำนวยความสะดวกแบบเรียบง่าย แค่เตียง ตู้เสื้อผ้า ทีวี ส่วนการตรวจค้นของใช้ส่วนตัว พบอุปกรณ์เสพยา เศษผงยาเสพติด และยาบรรจุซองวางอยู่ โดยมีรายงานว่า ยาที่พบ เป็นยาคลายเครียด ยาขยายหลอดเลือด ลดความดัน และยาพ่นรักษาภูมิแพ้

ขณะที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครสวรรค์ เปิดปฏิบัติการรุ่งสาง ตามคำสั่งของ พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำกำลังบุกค้นบ้านของตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ชุด 05 ที่ถูกจับในคดีอดีต ผกก.โจ้ โดยเฉพาะบ้านของดาบตำรวจวิสุทธิ์ บุญเขียว ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครสวรรค์ หรือ ดาบโบ้ นอกจากจะอยู่แฟลตตำรวจที่อยู่หลังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแล้ว ยังมีบ้านพักอีกแห่งในตำบลหนองกระโดนด้วย ซึ่งการตรวจค้นพบยาเสพติดซุกซ่อนอยู่จำนวนหนึ่ง


ส่วนความเคลื่อนไหวที่พิษณุโลก นายสมพงษ์ เย็นแก้ว รองอธิบดีอัยการภาค 6 พลตำรวจตรี ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองผู้บัญชาการภาค 6 และพันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วยทนายฝั่งผู้ต้องหา บุกเรือนจำพิษณุโลก เพื่อสอบปากคำอดีต ผกก.โจ้ และพวก เพราะตามหลักเมื่อคดีมีการชันสูตรพลิกศพ หรือมีใครเสียชีวิตระหว่างเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ ต้องสอบสวนโดยพนักงานอัยการ ร่วมกับ พนักงานสอบสวน เนื่องจากสำนวนคดีที่แจ้งความไว้เป็นการกระทำโดยพนักงานของเจ้าพนักงานสอบสวนเพียงฝ่ายเดียว พนักงานอัยการยังไม่มีส่วนร่วมด้วย อัยการจึงต้องมาร่วมสอบสวนให้ครบตามกระบวนการ และภายหลังสอบสวนเสร็จสิ้น รองอธิบดีอัยการภาค 6 ให้ข้อมูลว่ากับนักข่าวว่า วันนี้ อดีต ผกก.โจ้ พร้อมพวก ยังอยู่ในอาการสงบ ไม่มีอาการเครียด เหมือนวันแรกๆ ทุกคนให้ความร่วมมือในการสอบสวนเป็นอย่างดี

ส่วนการให้ปากคำ อดีต ผกก.โจ้ ยังยืนยันให้การภาคเสธ โดยบอกว่า กระทำจริง แต่อ้างว่าไม่ได้มีเจตนาฆ่า แค่ต้องการเค้นข้อมูล ซึ่งการให้ปากคำลักษณะนี้ เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ แต่ทางอัยการยืนยันว่า การสอบสวนครั้งนี้ไม่ใช่การเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ เมื่อได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วว่า ฆ่าคนตายโดยเจตนา เล็งเห็นผลโดยทารุณโหดร้ายและทนทุกข์ทรมาน หลักการตามกฎหมายยังอยู่เหมือนเดิม เพราะการพิจารณาของอัยการ และตำรวจจะดูว่าพยานหลักฐานที่ปรากฏมีลักษณะของการเจตนาที่จะฆ่าจริงหรือไม่ มีลักษณะทารุณโหดร้ายจริงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ดูที่เจตนา และ “กรรม” หรือการกระทำ เป็นเครื่องชี้เจตนา

นอกจากนี้ รองอธิบดีอัยการภาค 6 ยังอธิบายแบบละเอียดอีกครั้งถึงพฤติการณ์ของอดีต ผกก.โจ้ ว่าตามหลักฐานที่ปรากฏ ทำไมใช้ถุงคลุมศีรษะเหยื่อถึง 6 ชั้น มีการขันชะเนาะหลายรอบ ทำให้รอบคอมีรอยแดง ซึ่งเป็นลักษณะการใช้ความรุนแรง ส่วนประเด็นไบโพลาร์ ท่านอธิบายชัด และยืนยันว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาจะกล่าวอ้างว่าอย่างไร จะปฏิเสธอย่างไร แต่เจ้าหน้าที่เชื่อในหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เชื่อในข้อมูลของแพทย์ผู้ชำนาญการที่มีหน้าที่โดยตรง ไม่ใช่คำกล่าวอ้างลอยๆ ของผู้ต้องหา ฟังแล้วค่อนข้างชัดเจน แต่คดีจะพลิกอีกหรือไม่ ต้องรอติดตาม ซึ่งเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า กำลังเร่งทำสำนวนการสอบสวน และชันสูตรพลิกศพให้เสร็จ คาดไม่เกิน 30 วัน สามารถส่งสำนวนต่อศาลให้พิจารณาคดีได้ ส่วนข้อกล่าวหา ย้ำว่ายัง 3 ข้อเหมือนเดิม คือ ฆ่าคนตายโดยทรมานโหดร้าย หน่วงเหนี่ยวกักขังเป็นเหตุแก่ความตาย เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่มิชอบโดยกฎหมาย


ส่วนความเคลื่อนไหวในกรุงเทพฯ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ยังมีข้อสงสัยหลายประเด็น วันนี้ กมธ.กฎหมาย ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน จึงได้เชิญผู้เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง นำทีมโดยพลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พลตำรวจตรี ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ และแพทย์นิติเวช เข้าร่วม

ทันทีที่เริ่มประชุม นายสิระ ได้สอบถามตำรวจว่า คดีนี้ มีการช่วยเหลือผู้ต้องหาในระหว่างดำเนินการจับกุมหรือไม่ ซึ่งพลตำรวจเอกสุชาติ ยืนยันคดีนี้ดำเนินการทุกอย่างตามกฏหมาย ไม่ได้ช่วยเหลือผู้กระทำผิด ขณะที่ พลตำรวจตรีเอกรักษ์ ยอมรับเคยพบ และรู้จักกับ อดีต ผกก.โจ้ มาก่อนบ้าง แต่ไม่ได้สนิท พร้อมย้ำคำเดิมคืนก่อนมอบตัว อดีต ผกก.โจ้ ได้โทรมาหาและร้องไห้บอกว่าอยากตาย ทำให้ต้องบอกไปว่า อย่าคิดสั้นควรต้องรับผิดชอบ ส่วนเรื่องป้ายทะเบียนยอมรับไม่ได้โฟกัสจริงๆ เพราะสมาธิอยู่ที่ตัวผู้ต้องหา

ส่วนนายน้ำแท้ มีบุญสล้าง ผอ.สถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาการสอบสวนฯ และดำเนินคดี สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงประเด็นการเสียชีวิตของเหยื่อ ว่าตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 กำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพไปยังพนักงานอัยการทันที แต่ตำรวจที่ทำคดีนี้ไม่ได้ดำเนินการทันที เมื่ออัยการลงไปทำคดี จึงสั่งให้ชันสูตรใหม่ทั้งหมด เพราะที่ทำมานั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งนับว่า โชคดีที่แพทย์ทำรายงานยังไม่เสร็จสมบูรณ์ แม้ว่าจะได้รับคำให้การเท็จมาจากตำรวจในตอนแรก และยังโชคดีที่แพทย์ได้ผ่าพิสูจน์ไว้อย่างละเอียด ทำให้การชันสูตรใหม่ ผลออกมาสอดคล้องกับพยานหลักฐาน และกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ

เรื่องคดีก็ต้องตามกันต่อ แต่ประมวลจริยธรรมข้าราชการตำรวจ ที่เว็บไซต์ราชกิจจาเผยแพร่ มีผลบังคับใช้แล้ว ซึ่งรายละเอียดมี 5 ข้อใหญ่ 7 ข้อย่อย โดยข้อใหญ่ที่น่าสนใจ คือ ข้อ 2 ที่เป็นประเด็นในการรักษาจริยธรรม มีการระบุไว้ว่า ต้องยึดมั่นในสถาบันหลักของประเทศ ด้วยการแสดงออกถึงความภูมิใจในชาติและรักษาผลประโยชน์ของชาติ ซื่อสัตย์สุจริต ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ไม่แสดงออกถึงพฤติกรรมที่มีนัยเป็นการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ กล้าตัดสินใจและยืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม กล้าคัดค้าน และแก้ไขสิ่งไม่ถูกต้องตามอำนาจหน้าที่ ไม่คบหาหรือให้การสนับสนุนผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม ปราศจากอคติ ดำรงตนเป็นแบบอย่างด้วยการเป็นข้าราชการที่ดี รักษาภาพลักษณ์ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก