นครสวรรค์ 28 ส.ค. – รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ขยายผลสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้รอบด้านคดี ผกก.โจ้ พร้อมโชว์บันทึกล่อซื้อยาเสพติดจากผู้เสียชีวิตของชุด 05 ระบุได้ของกลางเป็นยาบ้าและไอซ์
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. หัวหน้าทีมคลี่คลายคดีผู้กำกับโจ้ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบข้อมูล ตำรวจควบคุมตัวนายนายจิระพงศ์ หรือมาวิน ผู้เสียชีวิต มาที่โรงพักเมืองนครสวรรค์ เพื่อขยายผลจากการล่อซื้อ เนื่องจากมีหลักฐานเป็นบันทึกประจำวัน หลักฐานเงินล่อซื้อ และยาเสพติดของกลางเป็นยาบ้าจำนวนหนึ่ง และไอซ์ 3 กรัม ซึ่งเป็นการทำตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ยาเสพติด จึงน่าเชื่อได้ว่าเป็นการกระทำโดยชอบ
ส่วนที่ 2 คือตำรวจชุดล่อซื้อยาเสพติด และนำตัวไปขยายผล ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 ส่วน โดยส่วนนี้อยู่ระหว่างการหาพยานหลักฐาน เพื่อตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงว่ามีการกระทำความผิดเพิ่มเติมหรือไม่ และส่วนที่ 2 คือการขยายผลที่นำถุงดำมาคลุมศีรษะผู้ตาย เป็นเหตุทำให้เสียชีวิต เป็นความผิดชัดเจน ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ นำไปสู่การแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย ก็ถูกดำเนินคดีไปแล้ว แต่มีตัวละครที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมขึ้นมามากกว่า 7 คน โดยอยู่ในจำนวน 13-15 ซึ่งอยู่ระหว่างการขยายผลต่อ แต่จะเป็นคนละข้อหากับผู้กำกับโจ้ และพวก และถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ล่อซื้อตามกฎหมาย ไม่มีการหน่วงเหนี่ยวกักขัง โดยมีหลักฐานเป็นบันทึกประจำวันที่ลงไว้ในสมุดรายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี ซึ่งระหว่างนี้รอง ผบ.ตร. ได้ให้ตำรวจนำบันทึกประจำวันมาให้สื่อมวลชนบันทึกภาพ เพื่อยืนยันว่ามีอยู่จริง ไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ และมีการลงในระบบของตำรวจ โดยในบันทึกประจำวัน ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2564 เวลา 20.00 น.
รายละเอียดร้อยตำรวจเอกสมยศ คล้ายนาค รองสารวัตรปราบปราม สภ.เมืองนครสวรรค์ แจ้งว่าได้นำธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับละ 1,000 บาท จำนวน 64 ฉบับ รวมเป็นเงิน 64,000 บาท ไปล่อซื้อยาเสพติดไอซ์ จากนายมาวิน ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ในเขตอำเภอเมืองนครสวรรค์ โดยในบันทึกได้ระบุหมายเลขธนบัตรทั้ง 64 ฉบับ เอาไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม รอง ผบ.ตร. เผยว่า หลังจากเกิดเหตุต่างคนต่างตกใจ หลบหนีไป จึงไม่ได้นำบันทึกนี้เข้ากระบวนการเหมือนกรณีทั่วไป ทำให้เราเพิ่งพบ แต่ยืนยันได้ว่าสำเนาประจำวันที่ให้ดูนั้นเป็นของจริงที่ไม่สามารถลงย้อนหลังได้
นอกจากนี้ในการล่อซื้อยังได้ของกลางเป็นยาบ้าส่วนหนึ่ง และไอซ์ 3 กรัม ส่วนข้อสงสัยที่ว่าระหว่างจับกุมพร้อมของกลาง ทำไมตำรวจถึงไม่ดำเนินคดีกับภรรยาผู้เสียชีวิต เนื่องจากตัวภรรยาไม่พบหลักฐานว่ามีส่วนรู้เห็นกับการล่อซื้อ แต่ถ้าภายหลังพบหลักฐานก็สามารถเรียกสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมได้ โดยภรรยาผู้เสียชีวิตให้การว่าสามีบอกว่าจะพาไปทำหน้า ไม่ได้บอกว่าจะไปค้ายาเสพติด
ส่วนคนที่พาผู้กำกับโจ้ไปมอบตัวที่ สภ.แสนสุข ตรวจสอบแล้วทราบว่าเป็นอดีตข้าราชการ ซึ่งให้การว่าไม่ได้ให้ที่พักพิงและช่วยเหลือ แต่ได้แนะนำให้ผู้ต้องหามามอบตัว ซึ่งทางตำรวจไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดตัวบุคคล
ส่วนการที่นายสิระ เจนจาคะ เชิญผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับคดี สามารถไปให้ข้อมูลได้ตามปกติ ไม่ได้หนักใจอะไร
รอง ผบ.ตร. ได้ชี้แจงเรื่องคลิปกล้องวงจรปิดที่หลุดออกไป เรื่องเกิดจากความขัดแย้งของคนในหน่วยงาน ยืนยันว่าคลิปดังกล่าวมีปรากฏอยู่ในพนักงานสืบสวนสอบสวนตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่สาเหตุเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้บอกตั้งแต่แรก เพราะเป็นการปกปิดไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องหลบหนีหรือทำลายพยานหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย