กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – สธ. ชี้แจงจัดส่งไฟเซอร์ฉีดบุคลากรทางการแพทย์ลอตแรกทุกจังหวัดเร็วกว่ากำหนด 5 วัน พร้อมให้สำรวจความต้องการบุคลากรด่านหน้าใหม่ที่ยังไม่ได้ฉีด เพื่อจัดส่งเพิ่มเติมให้ครบ
เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.) นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวการกระจายวัคซีนไฟเซอร์ 1.5 ล้านโดส ว่าการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ 700,000 โดส เริ่มทยอยจัดส่งวัคซีนตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564 ไปยังโรงพยาบาลใหญ่ครบ 170 แห่ง ทั้ง 77 จังหวัด ภายใน 3 วัน โดยเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2564 ถือว่าเร็วกว่ากำหนดที่วางไว้ 5 วัน ขณะนี้ฉีดแล้ว 57,000 โดส จากการติดตามอาการไม่พึงประสงค์ พบอาการปวด บวม ร้อน และไข้เล็กน้อย ไม่มีอาการรุนแรง
สำหรับวัคซีนที่ส่งไปลอตแรกประมาณร้อยละ 50-75 เนื่องจากสำรวจความต้องการฉีดพบว่ามีบุคลากรทางการแพทย์บางส่วนฉีดบูสเตอร์โดสด้วยแอสตราเซเนกาแล้วกว่าร้อยละ 20 ต้องการฉีดไฟเซอร์ประมาณร้อยละ 70 ซึ่งการบริหารจัดการด้วยวิธีการทยอยส่งเป็นลอตทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด หากส่งไปทั้งหมด 100% ของจำนวนบุคลากร บางพื้นที่อาจได้เกินหรือขาด เนื่องจากมีบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้ารายใหม่ที่ยังไม่เคยฉีดมาก่อน
ส่วนกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง อายุ 12 ปีขึ้นไป และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ในพื้นที่ 13 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จำนวน 645,000 โดส รวมถึงชาวต่างชาติกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนไทยเดินทางไปต่างประเทศ 150,000 โดส จะทยอยส่งวัคซีนไปยังโรงพยาบาลตั้งแต่วันนี้ (9 ส.ค.) โดยจะฉีดในคนที่ยังไม่เคยได้วัคซีนโควิดตัวอื่นมาก่อน
สำหรับเดือนสิงหาคมนี้ จะมีวัคซีนโควิด 10 ล้านโดส ที่จะทยอยส่งสัปดาห์ละ 2 ล้านโดส โดยจะส่งไปต่างจังหวัดกว่าร้อยละ 80 จำนวนนี้ครึ่งหนึ่งส่งไปยัง 29 จังหวัดควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ซึ่งมีการระบาดเกิดขึ้นอยู่ โดยเน้นฉีดกลุ่มเสี่ยง คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค และหญิงตั้งครรภ์ โดยให้ฉีดเร็วที่สุดเพื่อให้ครอบคลุมร้อยละ 70.-สำนักข่าวไทย