อุดรธานี 4 ส.ค. – ศาลชั้นต้นพิพากษาประหารชีวิต “เสี่ยบรรเจิด” จ้างวานฆ่า “พระหมอ” ขณะที่ทีมฆ่าทั้งมือปืนและดาบตำรวจ คนขับรถ จำคุกตลอดชีวิต ส่วนคนดูต้นทางศาลยกฟ้อง
คดีนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย 1.จำเลยที่ 1 นายปัญจ๋า ชารีแสน มือปืน 2.จำเลยที่ 2 ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ จัดหามือปืน 3.จำเลยที่ 3 นายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ ผู้จ้างวาน 4.จำเลยที่ 4 นายบุญนาค หงษาคำ คนดูต้นทาง
วันนี้ศาลจังหวัดอุดรธานีอ่านคำพิพากษาคดียิงพระหมอ เมื่อปี 2558 โดยในคำพิพากษาให้ประหารชีวิต นายปัญจ๋า ชารีแสน จำเลยที่ 1 (มือปืน) ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ จำเลยที่ 2 (จัดหามือปืน) นายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ จำเลยที่ 3 (ผู้จ้างวาน) โดยจำเลยที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธมาโดยตลอด จึงไม่มีเหตุให้ลดโทษ และยกฟ้องนายบุญนาค หงษาคำ จำเลยที่ 4
สรุปศาลตัดสินให้จำเลยที่ 3 นายบรรเจิด ฉัตรไพฑูรย์ ศาลพิพากษาประหารชีวิต จำเลยที่ 1-2 นายปัญจ๋า ชารีแสน และ ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 4 นายบุญนาค หงษาคำ ศาลพิพากษายกฟ้อง
คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อเช้าวันที่ 1 มีนาคม 2558 บริเวณถนนทางไปวัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ดักซุ่มยิงพระอาจารย์บัณฑิต สงวนแก้ว หรือพระหมอ (นายแพทย์บัณฑิต สงวนแก้ว อายุ 48 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด จนเสียชีวิต ขณะกลับจากไปบิณฑบาตในหมู่บ้าน)
ถือเป็นคดีสะเทือนขวัญระดับประเทศในขณะนั้น ทำให้ตำรวจกองปราบฯ ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมคนร้าย ก่อนจะปิดคดีได้ และสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดย 1 ใน 4 ผู้ต้องหา คือ นายบรรเจิด ฉัตรไพทูรย์ หรือเสี่ยบั้ค ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกอุดร คหบดีคนดังมีชื่อเสียงของอุดรธานี ในข้อหาจ้างวานฆ่าพระอาจารย์บัญฑิต สุปัณฑิโต หรือพระหมอ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด บ้านโนนเดื่อ ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี และนายปัญจ๋า หรือโบ้ ชารีแสน อายุ 49 ปี มือปืน ผู้ต้องหายิงพระอาจารย์บัณฑิต หนึ่งในผู้ร่วมทีมสังหารพระหมอ และให้การยอมรับสารภาพว่ารับเงินค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท ถือเป็น 2 ผู้ต้องหาสำคัญในคดีสะเทือนขวัญนี้
สำหรับพระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือ “พระหมอ” สิริอายุรวม 48 ปี จบแพทยศาสตร์บัณฑิต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เริ่มรับราชการที่โรงพยาบาลโนนสะอาด จ.อุดรธานี ย้ายมาเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลไชยวาน จ.อุดรธานี และผู้อำนวยการโรงพยาบาลนายูง ลาออกจากราชการเพื่ออุปสมบท ณ วัดโพธิสมภรณ์ (พระอารามหลวง) อุดรธานี โดยมีพระอุดมญาณโมลี (หลวงปู่จันทร์ศรี จนฺททีโป) หรือหลวงปู่ใหญ่ เป็นพระอุปัชฌาย์
พระอาจารย์บัณฑิต สุปัณฑิโต หรือ “พระหมอ” มาบุกเบิกสร้างวัด และเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าตอสีเสียด ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี ขณะเดียวกันได้ทำหน้าที่ดูแลสุขภาพหลวงปู่ใหญ่ และดูแลการก่อสร้างพระบรมธาตุธรรมเจดีย์ วัดโพธิสมภรณ์, ปรับปรุงหอเมตตาธรรมบำบัดวิกฤติ (CICU) รพ.ศูนย์อุดรธานี จนเช้าวันที่ 1 มีนาคม 2558 เวลาประมาณ 07.20 น. นายปัญจ๋า หรือโบ้ ชารีแสน ได้ใช้อาวุธปืนสงครามลอยสังหาร ขณะที่พระหมอกลับจากการบิณฑบาตกำลังจะถึงวัด โดยมี ด.ต.ชาญชัย สร้อยสังวาลย์ ดูต้นทางและขับรถ .-สำนักข่าวไทย