ถ้าไม่คุมเข้มยอดติดเชื้ออาจทะลุ 3 หมื่นต่อวัน

ทำเนียบรัฐบาล 19 ก.ค.-ศบค.เพิ่มพื้นที่คุมสูงสุดจาก 24 เป็น 53 จังหวัด งดออกนอกที่พักโดยไม่จำเป็นช่วงกลางวัน หลังอาจารย์สิ่งแวดล้อม มหิดลเตือน ถ้าไม่คุมเข้มยอดติดเชื้ออาจพุ่ง 3 หมื่นต่อวัน ขอประชาชนร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนดฉบับ 28


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) แถลงว่า จากการประเมินสถานการณ์ นางนวลจันทร์ สิงห์คราญ อาจารย์คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลนำเสนอข้อมูลว่า หากไม่มีมาตรการใด ๆ ควบคุม อาจทำให้ยอดการติดเชื้อสูงสุดถึงวันละ 31,997 คนต่อวัน แต่หากควบคุมจะมียอดเฉลี่ย 9,018 – 12,605 คนต่อวัน เช่นจำนวนแต่ละวันในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อการควบคุมสูงสุด ศบค.จึงกำหนดพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศใหม่ โดยยกระดับพื้นที่สถานการณ์โควิด-19 พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี นราธิวาสปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา สงขลา สมุทรปราการสมุทรสาคร

โฆษก ศบค. กล่าวว่า พื้นที่ควบคุมสูงสุดเพิ่มจาก 24 เป็น 53 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพซร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำป่าง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สมุทรสงคราม สระแก้ว สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อุดรธานี อุทัยธานี อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ส่วนพื้นที่ควบคุม 10 จังหวัด ชุมพร นครพนม น่าน บึงกาฬ พังงา แพร่ พะเยา มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน สุราษฎร์ธานี และพื้นที่เฝ้าระวังสูง 1 จังหวัด คือ ภูเก็ต


“ขอเน้นย้ำให้ประชาชนร่วมมือตามข้อกำหนดล่าสุด ฉบับที่ 28 คือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม) ในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งที่ประชุมศปก.ศบค.เช้านี้(19 ก.ค.) มีมติให้งดเดินทางออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็นในช่วงเวลากลางวัน ยกเว้นการเดินทางเพื่อการจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต อาหาร ยาและเวชภัณฑ์ ไปพบแพทย์ การรักษาพยาบาล การรับวัคซีนป้องกันโรคหรือมีความจำเป็นเพื่อปฏิบัติงานหรือประกอบอาชีพที่ไม่สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งหรือ เวิร์คฟอร์มโฮมได้ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงจะจัดชุดตรวจเข้มแข็งกระจายอยู่รอยต่อของแต่ละจังหวัด มีด่านตรวจทั้งเข้าและออก” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า มีแนวทางเข้มข้นขึ้น 3 แนวทาง คือ การแสดงหลักฐานการอนุญาตต่อเจ้าพนักงานในพื้นที่เป็นใบผ่านทางหรือผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ที่ด่านตรวจ ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ covid19.in.th ซึ่งจะได้คิวอาร์โค้ดเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจตั้งแต่วันนี้ (19 ก.ค.) เป็นต้นไป ทั้งนี้ นอกจากบุคคล 6 กลุ่มที่จะได้รับการยกเว้น คือด้านการสาธารณสุข การขนส่งเพื่อประโยชน์ของประชาชน เช่น อาหาร ยาและเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ อุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณีย์และพัสดุ สิ่งพิมพ์ เพื่อการส่งออกและนำเข้า การขนส่งหรือขนย้ายประชาชน การให้บริการอำนวยประโยชน์เพื่อความสะดวกแก่ประชาชน การประกอบอาชีพที่จำเป็น กรณีจำเป็นอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตเป็นการเฉพาะของเจ้าหน้าที่

“อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ 13 จังหวัด มีความยุ่งยากในการเดินทาง เพราะถือว่าเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยง ส่วนบุคคลนอกเขตพื้นที่จะเดินทางเข้ามาสามารถทำได้ แต่ต้องมีความจำเป็นเท่านั้น ห้ามบุคคลใดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้นต่อเนื่อง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับการขนส่งสาธารณะ ให้กระทรวงคมนาคม กทม. จังหวัดหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ กำกับดูแลการขนส่งและให้บริการสาธารณะทุกประเภทในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และการขนส่งสาธารณะทุกประเภทระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักร โดยให้จำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้โดยสาร สำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมเป็นต้นไป

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มให้จำหน่ายได้ถึงเวลา 20.00 น. โดยห้ามบริโภคในร้าน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า community mall หรือ สถานประกอบการอื่น ให้เปิดบริการได้เฉพาะ supermarket และแผนกยาและเวชภัณฑ์เท่านั้น พื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีน โรงแรมงดการจัดประชุมสัมมนาหรือจัดเลี้ยง ส่วนร้านสะดวกซื้อ ตลาดสดให้ปิดบริการตั้งแต่เวลา 20.00 น. ถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น แต่หากพบการติดเชื้อสูงขึ้น ให้จังหวัดสามารถพิจารณาปิดได้ ส่วนโรงเรียน สถาบันการศึกษาฝึกอบรมและสถานศึกษาต่าง ๆ ยังไม่ให้เปิดบริการ

“ขณะที่สถานประกอบการนอกห้างสรรพสินค้า ได้แก่ โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกรักษาโรค ร้านขายยา โรงงาน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจการเงิน ธนาคาร ตู้ ATM ธุรกิจสื่อสารคมนาคม ร้านจำหน่ายอาหาร ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ร้านขายยา ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง ร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดยังให้เปิดบริการ แต่ ทั้งนี้ ให้อำนาจแต่ละจังหวัดประเมินสถานการณ์และสามารถสั่งปิดได้ หากพบว่าสถานที่นั้น ๆ เป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อ” โฆษก ศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต

ราชทัณฑ์ แจงชัดเหตุ “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำ

ราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี “ผู้กำกับโจ้” เสียชีวิตในเรือนจำกลางคลองเปรม ด้าน จนท.พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ธ.ก.ส. ออก “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” หนุนคนใกล้เกษียณทำเกษตร

กรุงเทพฯ 6 มี.ค.- ธ.ก.ส. เปิดตัว “สินเชื่อเกษตรวิวัฒน์” ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินทำการเกษตรคู่ขนาน รองรับการเข้าสู่ Aging Society สูงสุด 8 ล้านบาท ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเกษตรวิวัฒน์ ส่งเสริมการดึงคนกลับเข้าสู่ภาคการเกษตร กรอบวงเงินรวม 3.75 หมื่นล้านบาท สานฝันบุคลากรภาครัฐและเอกชนที่มีรายได้ประจำอายุ 50 – 59 ปี สร้างรายได้คู่ขนานจากการทำการเกษตร และกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเกษตรไปสู่เกษตร มูลค่าสูง วงเงินกู้สูงสุดรายละไม่เกิน 8 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำ 5 ปีแรก MRR – 2 และปีที่ 6 เป็นต้นไป เท่ากับ MRR แจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้มีรายได้ประจำเป็นรายเดือน สามารถวางแผนการสร้างรายได้คู่ขนานจากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หรืออาชีพที่เกี่ยวกับการเกษตรในวัยก่อนและหลังเกษียณ รองรับการก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) เพิ่มการเกษตรที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม […]

ข่าวแนะนำ

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

ผลผ่าพิสูจน์ “ผกก.โจ้” ขาดอากาศหายใจ

ผลผ่าพิสูจน์ “ผกก.โจ้” ขาดอากาศหายใจ จากการทำร้ายตัวเอง ไม่พบรอยช้ำที่เนื้อเยื่อ และกล้ามเนื้อลำคอ ญาติพอใจ แต่ขอส่งศพผ่ารอบสองที่นิติเวช จุฬาฯ เปรียบเทียบผล ส่วนประเด็นผ้าที่ใช้ผูก เข้าได้กับรอยที่คอที่มีขนาดกว้างกว่าเชือก