สำนักข่าวไทย 13 ก.ค. –คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ย้ำต้องอาศัย 3 มาตรการคุมโควิด ทั้งฉีดวัคซีนให้เร็วและมาก, มาตรการสังคม การป้องกันส่วนบุคคล และมาตรการปกครองล็อกดาวน์ หวังลดป่วยติดเชื้อและเสียชีวิต
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล อัปเดตสถานการณ์โควิดและแนวทางเกี่ยวกับการรับวัคซีน เพื่อป้องกันสายพันธุ์ใหม่ โดยระบุว่า ขณะนี้สายพันธุ์เดลตาระบาดไปเกือบ 100 ประเทศทั่วโลก ในอังกฤษการติดเชื้อ 95% เป็นสายพันธุ์เดลตา หรือในสหรัฐอเมริกา รายงานล่าสุดวันที่ 9 ก.ค.64 พบสายพันธุ์เดลตาในทุกรัฐ ภาพรวมทั่วประเทศพบมากกว่า 50% และเมื่อมีการระดมการฉีดวัคซีนจำนวนหลายแสนโดสต่อวัน สัดส่วนการติดเชื้อ แม้จะอยู่ในหลักหมื่นคนต่อวัน และอัตราการตายลดลงประมาณ 100 คน โดยทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนไปแล้ว 3,000 ล้านโดส
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยสถานการณ์การติดเชื้อเริ่มเพิ่มมากขึ้นในต้นปี 64 มีเชื้อนำเข้าจากชายแดนเข้ามาแหล่งพนัน บ่อนไก่ ตลาด สถานบันเทิง ดูเหมือนการติดเชื้อจะลดลง แต่หลังจากเดือน เม.ย.64 จำนวนผู้ติดเชื้อไม่ลงอีก และพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 10 วัน ตั้งแต่ 1-10 ก.ค. อัตราการติดเชื้อเพิ่มสูง เช่นเดียวกับอัตราการเสียชีวิตค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึง 91 คน ซึ่งเป็นผลมาจากสายพันธุ์เดลตา ทำให้การติดเชื้อมากขึ้น คนไข้ใน รพ.มากขึ้น สัดส่วนผู้ป่วยหนักเพิ่มมากขึ้น ศักยภาพของสถานพยาบาลเริ่มรับไม่ไหว จึงทำให้ต้องใช้ยุทธวิธีทุบด้วยค้อนแล้วฟ้อนรำ หรือมีมาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง เพื่อดึงตัวเลขผู้ป่วยและเสียชีวิตให้ลดลง
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า โดยการจะคุมสถานการณ์ได้ต้องอาศัย 3 ปัจจัย 1.วัคซีน ต้องเร่งฉีดวัคซีนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมสนับสนุนให้มีวัคซีนทางเลือกหลากหลายชนิด 2.มาตรการทางสังคม การป้องกันส่วนบุคคลต้องเคร่งครัด รู้ว่าเสี่ยงต้องกักตัว ลดการแพร่เชื้อ และ 3.มาตรการทางปกครอง ที่กำลังดำเนินการอยู่ คือการล็อกดาวน์ ซึ่งตนเห็นด้วยกับมาตรการนี้ เพื่อลดการพบปะการเจอกันของผู้คนลดกิจกรรม เนื่องจากขณะนี้สถานพยาบาลทุกแห่งเบ่งเตียง เพิ่มคนไข้ เพิ่มยา ทำเต็มที่จนล้นแล้ว ตอนนี้คนป่วยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจล้นออกไปนอกห้องไอซียู เพราะไอซียูเต็ม สถานการณ์ในตอนนี้คนไทยต้องช่วยกัน. -สำนักข่าวไทย