ทำเนียบฯ 6 ก.ค.-การประชุม ครม.มีขึ้นตามปกติแม้ว่านายกรัฐมนตรี จะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่บ้านพัก โดยวาระสำคัญ กระทรวงสาธารณสุข จะนำเรื่องจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ เข้า ครม. และรายงานสถานการณ์ไฟไหม้โรงงานย่านกิ่งแก้ว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีตามปกติ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากบ้านพักภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) จากเดิมนายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล แต่เนื่องจากนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปจังหวัดภูเก็ต เพื่อเปิด Phuket Sandbox เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา และภายหลังทราบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย จึงจะใช้เวลาช่วงนี้ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยการติดตามและการบริหารราชการภายในพื้นที่ของตนเอง เพื่อคลายความวิตกกังวลของภาคส่วนและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทำให้บรรยากาศที่ทำเนียบฯ เงียบเหงา มีเพียงรัฐมนตรีที่เดินทางมา คือ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายอนุชา นาคาศัย รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ณํฐพล นาคพาณิชย์ เลขาฯ สมช.
สำหรับวาระการประชุมในวันนี้ จะมีการติดตามสถานการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติกในซอยกิ่งแก้ว แม้เจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าปิดวาล์วและคุมเพลิงได้แล้ว แต่คงต้องเฝ้าระวังใกล้สารเคมีถังใหญ่ รวมถึงการดูแลประชาชนในการอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง และการช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บ ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้คาดว่าจะมีการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มียอดตัวเลขการติดเชื้อรายวันกว่า 5,000-6,000 คน และมีผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้น ที่ทำให้ต้องเร่งจัดหาเตียงเพิ่มขึ้นเพื่อให้เพียงพอและสอดคล้องกับสถานการณ์
นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุข จะการนำเรื่องการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พิจารณา เพราะร่างสัญญานี้ มีหลายเรื่องเป็นข้อผูกพันที่ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐบาล หากผ่านขั้นตอนเห็นชอบจากทุกฝ่ายสามารถลงนามสั่งซื้อได้ และจะเดินหน้าเจรจาส่งมอบให้เร็วขึ้น เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการที่มีจำนวนมากเช่นกัน
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุถึงกรณีการเสนอขอจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า เหตุที่ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมเนื่องจากจะต้องของบในการจัดซื้อ แต่ไม่ใช่ซื้อวัคซีนทุกครั้งจะต้องเข้าที่ประชุม ครม. เช่น วัคซีนของโมเดอร์นา เอกชนเป็นผู้จัดซื้อ รัฐจะเป็นเพียงผู้ประสานงาน จึงไม่จำเป็นต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี นายวิษณุกล่าวว่าที่ผ่านมา มีโอกาสได้ดูสัญญาบางฉบับ เป็นสัญญาที่มีลักษณะเฉพาะของเอกชนต่างประเทศ เช่นการส่งมอบล่าช้าก็จะไม่รับผิดชอบ และบางยี่ห้อไม่มีการคืนเงิน รวมไปถึงฟ้องกลับไม่ได้ ความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นก็จะไม่รับผิดชอบ นอกจากนี้ยังมีการระบุห้ามเปิดเผยสัญญา เนื่องจากสัญญาแต่ละประเทศจะไม่เหมือนกัน แต่ทางบริษัทกลับระบุว่าหากไม่ทำสัญญาก็จะไม่ขายให้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จึงจะเห็นได้ว่ารัฐบาลจึงไม่ออกมาพูดในเรื่องนี้มากนัก บางครั้งต้องพูดอ้อมไปมา แต่ไม่ใช่การปิดบังหรือโกหก แต่เพราะพูดไม่ได้ในบางเรื่อง ทำให้บางคนที่พยายามพูด ดูเหมือนจะพูดกลับไปมา ยอมรับว่าสัญญาดังกล่าวนั้นยุ่งยาก .-สำนักข่าวไทย