ปัตตานีวิกฤติหนัก ป่วยใหม่ 237 ราย

ปัตตานี 2 ก.ค.-ปัตตานีวิกฤติหนักพบผู้ป่วยรายใหม่ทะลุ 200 ราย อาการหนักกว่า 130 ราย ชาวบ้านผวา เกรงต้องรักษาตัวที่บ้าน หลังหมอโพสต์ ติดโควิดจะได้อยู่บ้าน รักษาที่บ้านแล้ว

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี สถานการณ์ยังคงวิกฤติ ผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งทะลุ 200 ราย เป็นครั้งแรก เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสถานการณ์ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 237 ราย โดยส่วนใหญ่ของผู้ติดเชื้อเกิดจากผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อจากคลัสเตอร์โรงงาน ในเขตอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี ไม่ว่าจะเป็นคลัสเตอร์โรงงานเดิม ก็คือ คลัสเตอร์โรงงานรอยั้ลฟูด คลัสเตอร์แพอรุณ และคลัสเตอร์จากมัรกัสยะลา นอกจากนี้ ยังพบคลัสเตอร์แห่งใหม่คือ คลัสเตอร์บริษัทปัตตานีผลิตภัณฑ์อาหาร ยังคงพบพนักงานติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดคลัสเตอร์แห่งนี้พบผู้ติดเชื้อรวมแล้ว ทั้งหมด 139 ราย จากพนักงานทั้งหมดที่ถูกกักตัวทั้งสิ้น 1,175 ราย ทำให้ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 2,593 รายแล้ว เสียชีวิต 12 ราย


จากยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นทำให้ทางจังหวัดปัตตานีประกาศปิดพื้นที่เสี่ยงเพิ่มขึ้นอีก ในขณะนี้ประกาศปิดพื้นที่ไปแล้ว 17 หมู่บ้าน ของ 10 ตำบล ในพื้นที่ 4 อำเภอ ก็คือ 1 อ.แม่ลาน 2 ตำบล 2 อ.กะพ้อ 2 ตำบล 3 อ.ไม้แก่น 1 ตำบล และ 4 อ.เมือง 5 ตำบล มัสยิดถูกปิด 15 มัสยิด

ล่าสุดได้รับข้อมูลจาก นพ.รุสตา สาและ หัวหน้ากลุ่มงานด้าน พัฒนาระบบบริการและสนับสนุนบริการสุขภาพ โรงพยาบาล จ.ปัตตานี กล่าวว่า ในขณะนี้ได้จำแนกผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ไว้ 3 ประเภทก็คือ ประเภทที่ 1 ผู้ป่วยสีแดง หมายถึงผู้ป่วยที่มีการหนัก ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้จะถูกส่งตัวเข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลปัตตานี ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยอาการหนักจำนวน 139 ราย โดยเจ้าหน้าที่จ้องเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด ประเภทที่ 2 คือ ผู้ป่วยสีเหลือง คือผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องหายใจ ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้ จะรับการรักษาตัวตามโรงพยาบาลในแต่ละอำเภอทั้ง 15 แห่งใน 12 อำเภอของจังหวัดปัตตานี และประเภทที่ 3 คือผู้ป่วยสีเขียว คือผู้ป่วยติดเชื้อแต่ไม่รุนแรง ก็จะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสนามทั้ง 6 แห่ง


นพ.รุสตา สาและ ยังเปิดเผยอีกว่าในขณะนี้กำลังเตรียมการให้โรงพยาบาลในแต่ละอำเภอ มีโรงพยาบาลสนาม โรงพยาบาลละ 100 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยสีแดง และสีเหลือง ที่มีอาการดีขึ้น ได้ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยรายใหม่ที่มีการรุนแรงได้เข้ามารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล เพื่อป้องกันเตียงไม่พอ อีกทั้งเพื่อรองรับผู้ป่วยรายใหม่ที่มีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เพียงพอต้อผู้ป่วยรายใหม่ที่จะเข้ามารักษาตัวต่อไป

ในขณะนี้ได้เกิดกระแสความวิตกของชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เนื่องจากว่า เกิดความหวาดกลัวว่า ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จะต้องรักษาตัวอยู่ที่บ้านแทนการรักษาตัวที่โรงพยาบาล หรือที่โรงพยาบาลสนาม เนื่องจากพบผู้ป่วยมีจำนวนมากกว่าเตียงในการรักษา เนื่องจากว่า มีเฟซบุ๊กของหมอท่านหนึ่ง โดยใช้ชื่อว่า คุณหมอคัพ by อามีน แสมา ได้โพสในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า เนื่องจากผู้ป่วยที่มีอาการรักษาตัวใน ร.พ. จำนวนมาก ร.พ.สนาม ที่ต้องรองรับผู้ติดเชื้อก็มีเพิ่มขึ้นทุกวัน บุคลากรหมุนเวียนไม่เพียงพอ (ทั้งดูแลคนไข้ และต้องกักตัว) เร็วๆนี้ อาจจะได้ยินคำว่า Home Isolation มากขึ้นคัพ พร้อมทั้งไฮไลต์ข้อความ ในกรอบสีแดงว่า “ติดโควิด จะได้อยู่บ้าน รักษาที่บ้านแล้ว” และยังมีอีกหลายข้อความที่สื่อถึง เตียงไม่เพียงพอต่อผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ประชาชนเริ่มไม่มั่นใจในสถานการณ์หากว่าผู้ป่วยติดเชื้อโควิด จะต้องรักษาตัวที่บ้านจริงๆ

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบจำนวนเตียงสำหรับผู้ป่วยโควิด 19 ของโรงพยาบาลในจังหวัดปัตตานี โดยข้อมูลของสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดปัตตานี ข้อมูลในวันที่ 30 มิ.ย.64 พบว่า จำนวนเตียงผู้ป่วยทั้งในโรงพยาบาลหลัก 15 แห่ง และโรงพยาบาลสนาม 6 แห่ง พบว่ามีเตียงทั้งหมด 2,452 เตียง ขณะนี้มีผู้ป่วยครอบครองเตียงทั้งสิ้น 950 เตียง และยังคงมีเตียงว่างทั้งหมด 1,502 เตียง ซึ่งจากการดูตัวเลขแล้ว เตียงสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังสามารถรองรับได้อีกกว่า 1,500 เตียง ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้งว่า เรื่องจำนวนเตียงผู้ป่วยขณะนี้ตรงกับข้อมูลที่ทางสสจ.จังหวัดปัตตานีแจ้งไว้หรือไม่ หรือเป็นเพียงความวิตกกังวลของหมอ ที่โพสลง เกรงว่าเตียงไม่พอกับผู้ป่วยที่มากขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ก่อนทูลเกล้าฯ ครม.

กทม 16 ก.ย.- “อนุทิน” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ไหว้ศาลหลักเมือง – วัดพระแก้ว ก่อนนำรายชื่อ ครม. ขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ ขณะ “บิ๊กเล็ก” ว่าที่ รมว.กลาโหม รอรับ พลาดลื่นคะมำที่บันได นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ ซึ่งระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพล ที่เดินตามข้างหลัง ได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่ พล.อ.ณัฐพล ได้ลุกอย่างรวดเร็ว และไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมา นายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี ถัดจากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมือง ต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯ สู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ […]

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย