ทำเนียบฯ 14 มิ.ย. -เลขาธิการ สมช. -ผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันทุกหน่วยงานบูรณาการแก้ปัญหาโควิด-19 ร่วมกัน ไม่มีประเด็นความขัดแย้ง ขออภัยผู้ถูกเลื่อนฉีดวัคซีน เหตุต้องปรับตามสถานการณ์ หลังวัคซีนไม่เข้าไทยตามแผน จะเร่งฉีดให้ทันทีที่ได้รับวัคซีน
พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ในฐานะ ผอ. ศปก.ศบค. และพลตำรวจเอกอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมแถลงข่าวชี้แจงการจัดสรรวัคซีน โดยพลตำรวจเอกอัศวิน กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 7-14 มิถุนายนนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ส่งวัคซีนมาให้ กทม. 5 แสนโดส แบ่งเป็นแอสตราเซเนกา 3.5 แสนโดส จะนำไปจัดสรรให้ผู้ที่ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อมไว้จำนวน 1.82 แสนโดส ฉีดสำหรับเข็มที่สอง 5.2 หมื่นโดส ผู้ป่วยติดเตียง คนชราใน กทม. 8,000 โดส และจัดสรรผู้ที่ลงทะเบียนผ่าน ไทยร่วมใจ 1 แสนโดส และเหลือสำรองไว้เล็กน้อย ส่วนของซิโนแวค 1.5 แสนโดส โดยของซิโนแวคมาใช้สำหรับเข็มที่สอง ซึ่งต้องใช้ขณะนี้ 1.26 แสนโดส อีก 2.4 แสนโดส ไว้เพื่อควบคุมโรคและแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน
ทั้งนี้ คาดหวังไว้ว่าวัคซีนจะมาก่อนวันที่ 14 มิถุนายน แต่มีความขัดข้องเล็กน้อย ทำให้กระทรวงสาธารณสุขยังไม่ได้รับวัคซีน ซึ่งทาง กทม.ต้องแจ้งเลื่อนการฉีดวัคซีนของผู้ที่ลงทะเบียนไว้ในวันที่ 15-21 มิถุนายนออกไป และจะดำเนินการฉีดให้เร็วที่สุดในวันรุ่งขึ้นทันที หลังจากได้รับวัคซีน ซึ่งผู้ที่เสียสิทธิ์ไปจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้รับการฉีด โดยไม่ต้องไปต้องคิวใหม่
พลตำรวจเอกอัศวิน กล่าวว่า กทม. ได้รับความอนุเคราะห์จากกระทรวงสาธารณสุขมาต่อเนื่อง ในส่วนของผู้ประกันตน ทางกระทรวงแรงงานฉีดให้จำนวน 2.1 แสนโดส ผู้บริการขนส่งสาธารณะ ทางกระทรวงคมนาคมก็ดำเนินการให้ที่สถานีกลางบางซื่อ รวมถึงมหาวิทยาลัยต่างๆ ที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้แบ่งเบา ถือเป็นการช่วยเหลือ กทม. เพราะ กทม.ไม่มีศักยภาพที่จะฉีดได้ทั้งหมด เดือนละ 2,050,000 โดส
“วันที่ 15-20 มิถุนายนมีผู้ลงทะเบียนผ่านหมอพร้อม ไว้ 140,000 คน ไทยร่วมใจ 170,000 คน รวม 320,000 คน ตรงนี้ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เป็นความขัดแย้งอะไร กระทรวงสาธารณสุขได้ให้หน่วยงานต่างๆ มาช่วย กทม. ทั้งกระทรวงคมนาคม มหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งต้องขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขไว้ด้วย เบื้องต้น กทม. ได้รับเมื่อไหร่ เราจะเริ่มฉีดในวันรุ่งขึ้นทันที” พลตำรวจเอกอัศวิน กล่าว และย้ำว่า เมื่อวัคซีนมาถึง จะมี SMS แจ้งให้ผู้ที่ถูกเลื่อนมาฉีดวัคซีน ซึ่งประชาชนสามารถเลือกวันที่สะดวกมาฉีดได้ทันที
ส่วนการผ่อนคลายกิจกรรม 5 ประเภทนั้น ในวันนี้ทาง กทม. จะออกเป็นคำสั่ง ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันนี้เป็นต้นไป
ด้านพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช.ในฐานะ ผอ. ศปก.ศบค. ยืนยันว่าในห้วงเวลาที่ผ่านมา ศบค.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุขและกรุงเทพมหานคร ในการทำงานแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะการจัดสรรวัคซีน ยืนยันทุกอย่างเป็นไปด้วยดี และทุกหน่วยงานทำงานเต็มขีดความสามารถ ไม่มีความขัดแย้งโดยมีเป้าหมายร่วมกันคือการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดกับประชากรไทย ซึ่งจะต้องฉีดวัคซีนให้ประชาชน 50 ล้านคน จำนวน 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564 นี้ได้อย่างแน่นอน และต้องฉีดเข็มแรกให้ครบภายในเดือนกันยายนหรือตุลาคมนี้ และนอกจากการจัดหาวัคซีนหลักแล้วได้มีการเตรียมการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนด้วย
ทั้งนี้ แผนจัดหาวัคซีนที่เตรียมไว้ คือ วัคซีนซิโนแวค จำนวน 8 ล้านโดส แอสตราเซเนกา 61 ล้านโดส ไฟเซอร์ 20 ล้านโดส และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน 5 ล้านโดส แต่เนื่องจากจอห์นสันแอนด์จอห์นสันฉีดเพียงเข็มเดียว ประสิทธิภาพเท่ากับ 2 เข็ม จึงเทียบได้กับ 10 ล้านโดส ของวัคซีนยี่ห้ออื่น รวมแล้วมีวัคซีนทั้งสิ้น 99 ล้านโดส
พลเอกณัฐพล ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เนื่องจาก ศบค.ได้ประมาณการและวางแผนกระจายวัคซีนไว้ล่วงหน้า ก่อนที่จะวัคซีนจะเข้ามาในประเทศ และเมื่อวัคซีนไม่เข้ามาตามแผน จึงทำให้เกิดความคลาดเคลื่อน ต้องปรับแผนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ทำให้เป็นสาเหตุของการเลื่อนฉีดวัคซีนในบางพื้นที่ออกไปก่อน ดังนั้นจึงต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ แต่ยืนยันว่าในภาพรวมของเดือนมิถุนายนนี้ การฉีดวัคซีนยังเป็นไปตามแผนคือ 6 ล้านโดสอย่างแน่นอน โดยทยอยจัดส่งมาเป็นงวดๆ และบริษัทผลิตวัคซีนไม่ได้ทำผิดเงื่อนไข ยังคงจัดส่งได้ภายในกรอบของเดือนมิถุนายน ส่วนประเด็นการเลื่อนฉีดวัคซีน ได้เตรียมการแก้ปัญหาแล้วว่าทันทีที่มีวัคซีนเข้ามา ผู้ที่ถูกเลื่อนจะได้รับนัดหมายให้มาฉีดทันทีเป็นลำดับแรก เลขาธิการ สมช. ย้ำว่า ตลอดระยะเวลา 14 เดือนที่ผ่านมา ในการบริหารสถานการณ์โควิด-19 ทุกหน่วยงานตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนอย่างเต็มที่ และรู้สึกภูมิใจที่คนไทยให้ความร่วมมือกับมาตรการของ ศบค.เป็นอย่างดี ดังนั้นหากมีสิ่งใดที่ส่งผลกระทบต้องขออภัยไว้ ณ โอกาสนี้ .-สำนักข่าวไทย