ทำเนียบรัฐบาล 10 มิ.ย.-ศปก.ศบค.ดีเดย์ใช้ฝ่ายความมั่นคงคุมแคมป์คนงานก่อสร้าง หลังพบติดเชื้อแล้วยังเคลื่อนย้ายไปแคมป์อื่น เผย สธ.ประเมินเปิดภาคเรียน 14 มิ.ย. เบื้องต้นทำได้ แต่ต้องออนไลน์ในพื้นที่ กทม.
พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการ ศปก.ศบค. เปิดเผยว่า วันนี้ (10 มิ.ย.64) เป็นวันแรกที่จะเริ่มมาตรการควบคุมคนงานก่อสร้างในแคมป์ก่อสร้าง เพื่อไม่ให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น โดยกรุงเทพมหานครและกระทรวงสาธารณสุขได้ขอกำลังฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจและทหาร เข้าไปช่วยควบคุมพื้นที่ เนื่องจากที่ผ่านมา ศบค.กังวลเรื่องการสร้างความตระหนกแก่ประชาชนที่จะใช้กำลังทหารและตำรวจ แต่ผลที่ออกมาพบว่า แรงงานต่างด้าวตามสถานประกอบการและไซต์งานต่าง เมื่อมีผู้ติดเชื้อแล้ว ยังมีการเคลื่อนย้ายคนไปยังไซต์งานอื่น ๆ
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะคุมเข้มมากขึ้น โดยใช้กำลังฝ่ายความมั่นคงเข้าไปควบคุม ยืนยันว่ายังไม่สั่งปิดไซต์งานก่อสร้าง เพราะกังวลจะกระทบต่อเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่จะต้องใช้มาตรการเข้มงวด แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นจึงค่อยผ่อนคลายมาตรการ ส่วนจะใช้กำลังฝ่ายความมั่นคงเท่าใดนั้น ในวันนี้จะประเมินการใช้กำลัง แต่เบื้องต้นจะใช้ประมาณ 4-5 คนดูแลพื้นที่ที่มีมากถึง 409 แคมป์ก่อสร้าง ยืนยันจะใช้กำลังฝ่ายความมั่นคงตามความจำเป็นของแต่ละแคมป์ ไม่ใช่ทุกจุด ส่วนบทลงโทษสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่ให้ความร่วมมือ กทม.มีบทลงโทษอยู่แล้ว ยืนยันรัฐบาลเดินหน้าตรวจเชื้อเชิงรุกอยู่แล้ว และเน้นใน 3 มาตรการควบคุมโควิด-19 คือ ป้องกัน เฝ้าระวังและควบคุม” เลขาธิการ สมช. กล่าว
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ส่วนการเปิดภาคเรียนในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ กระทรวงสาธารณสุขกำลังประเมินสถานการณ์ ซึ่งแม้จะเปิดเรียนได้ แต่จะเป็นการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ ทั้งนี้ ในพื้นที่สีแดงเข้มโอกาสการเปิดเรียนในโรงเรียน จากการประเมินของสาธารณสุขยังเป็นห่วงการแพร่ระบาด ดังนั้น การเรียนออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด โดยทาง ศบค.ได้เพิ่มมาตรการเข้มในการควบคุมพื้นที่ ซึ่งจุดที่มีความเสี่ยงมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากจะมีมาตรการควบคุมเข้มงวดขึ้น
เลขาธิการ สมช. กล่าวถึงข้อกังวลของประชาชนเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต จะกระทบต่อการลงทะเบียนฉีดวัคซีนหรือไม่ว่า เรื่องนี้ที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุขกำลังหารือกัน แต่อยากให้แยกเป็น 2 ประเด็น คือ การเสียชีวิตจะต้องสืบสวนหาสาเหตุที่ชัดเจน แต่ในส่วนของการเยียวยาจะเยียวยาทันทีโดยไม่ต้องรอผลสินิจฉัยสาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.).-สำนักข่าวไทย