fbpx

ร่างทูตยูเครนถึง รพ.ตำรวจ เร่งชันสูตรหาสาเหตุเสียชีวิต

กรุงเทพฯ 31 พ.ค. – ร่างของเอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย ซึ่งเสียชีวิตที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งบนเกาะหลีเป๊ะ เดินทางถึง รพ.ตำรวจ แล้ว เร่งดำเนินการชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต


เมื่อเวลา 03.30 น. วันนี้ (31 พ.ค.) เจ้าหน้าที่มูลนิธิธรรมรังสี จ.สตูล ได้นำร่างของ Mr.Andrii Beshta (อันดรีย์ เบชตา) เอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย ซึ่งเสียชีวิตที่ จ.สตูล เดินทางมาถึงสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจแล้ว เพื่อดำเนินการชันสูตรอย่างละเอียดหาสาเหตุการเสียชีวิต

ย้อนกลับไปเมื่อเช้าวานนี้ (30 พ.ค.) ตำรวจ สภ.เกาะหลีเป๊ะ เข้าตรวจสอบรีสอร์ตแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 8 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล หลังได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต ในที่เกิดเหตุพบศพ Mr.Andrii Beshta (อันดรีย์ เบชตา) อายุ 45 ปี เอกอัครราชทูตยูเครนประจำประเทศไทย ซึ่งชันสูตรเบื้องต้นไม่พบบาดแผล และไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ส่วนที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยงัดแงะ หรือการต่อสู้ใดๆ


จากการสอบถามพยาน ซึ่งเป็นบุตรชายวัย 17 ปี ที่พักในห้องเดียวกัน ให้การว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. เวลา 23.00 น. ผู้ตายได้เข้าห้องพักผ่อนตามปกติ จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ค. เวลาประมาณ 04.30 น. ผู้ตายได้อาเจียนและหมดสติ กระทั่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากนั้นได้มีการลำเลียงศพออกจากเกาะหลีเป๊ะ เดินทางมายังโรงพยาบาลสตูล เพื่อทำการชันสูตรเบื้องต้น และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนที่ในช่วงบ่ายวานนี้ (30 พ.ค.) ได้มีการส่งศพมาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อทำการชันสูตรที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ

ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูลว่า ไม่พบบาดแผลลักษณะถูกทำร้าย รวมถึงไม่พบร่องรอยงัดแงะ และไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ซึ่งจากการสอบถามลูกชาย ทำให้ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เข้าพักผ่อนตามปกติ จนเวลาประมาณ 04.30 น. ผู้ตายได้อาเจียน หมดสติ และเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ รพ.สต.เกาะหลีเป๊ะ ช่วยปฐมพยาบาลเต็มที่ เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน โดยไม่เกี่ยวข้องกับโควิด-19


นอกจากนี้ยังพบข้อมูลว่า ผู้เสียชีวิตและลูกชายได้เข้าพักบนเกาะหลีเป๊ะ ตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค. เพื่อมาร่ำลาเพื่อนคนไทย ในโอกาสที่เตรียมเดินทางกลับประเทศ หลังจากที่เดินทางมาประจำในไทย ตั้งแต่เดือน ม.ค.59. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด