กรุงเทพฯ 19 พ.ค.-รัฐบาลเตรียมพร้อม รพ.สนาม รองรับคลัสเตอร์แรงงานและราชทัณฑ์ เร่งตรวจหาเชื้อโควิดให้ผู้ต้องขัง 100%
น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่าขณะนี้ได้มีการเตรียมพร้อมโรงพยาบาลและโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 จากคลัสเตอร์ กลุ่มแคมป์คนงานก่อสร้างโดยเฉพาะในพื้นที่เขตหลักสี่และวัฒนา ซึ่งพบว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว หากผู้ติดเชื้อมีอาการระดับสีเขียวจะนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสนาม จ.สมุทรสาคร กลุ่มสีเหลืองมีศูนย์แรกรับ-ส่งต่อนิมิบุตร และสถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนีได้รองรับบางส่วนแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือให้ส่งต่อไปยังโรงพยาบาลบุษราคัม เพื่อช่วยรับบางส่วนด้วย
น.ส.รัชดา กล่าวว่าส่วนผู้ติดเชื้อในเรือนจำ โรงพยาบาลราชทัณฑ์พร้อมให้การดูแลผู้ติดเชื้อทั้งในระดับสีเขียวและสีเหลือง โดยได้สั่งการให้เรือนจำทั่วประเทศจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม หากเรือนจำใดไม่มีพื้นที่ จะให้ใช้พื้นที่ของทัณฑสถานเปิด หรือสถานกักกัน หรือเรือนจำเก่า ปรับปรุงเป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งหากเรือนจำและทัณฑสถานใดที่มีการแพร่ระบาดของโรค จะต้องดำเนินการตรวจหาเชื้อผู้ต้องขังทั้งเรือนจำและทัณฑสถานให้ครบ 100% รวมทั้งเอกซเรย์ปอดผู้ติดเชื้อจนครบทุกรายเพื่อแยกกลุ่มตามลักษณะอาการและเร่งการรักษาอย่างทันท่วงที โดยจะเป็นการทำงานร่วมกับโรงพยาบาลแม่ข่าย กรมควบคุมโรคกรมการแพทย์ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณหลักจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
นางสาวรัชดา กล่าวว่าในที่ประชุมเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลและการบริหารจัดการเตียงในเขตกทม. ได้มีการจัดโซนเพื่อคัดแยกอาการผู้ติดเชื้อ โดยโรงพยาบาลบุษราคัมดูแลกรุงเทพโซนเหนือ ศูนย์แรกรับ-ส่งต่อนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติดูแลกรุงเทพโซนกลาง และโรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน ดูแลกรุงเทพโซนใต้ ทั้งนี้นายกรัฐมนตรียืนยันว่าจะทำการดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อทุกคนอย่างดีที่สุด บนหลักความเท่าเทียม ซึ่งเรือนจำแต่ละแห่งเป็นระบบปิด โอกาสที่จะแพร่กระจายเชื้อสู่ชุมชนน้อย พร้อมได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การดูแลอย่างเข้มงวด งดการเข้าเยี่ยมญาติจากบุคคลภายนอกจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะดีขึ้น.- สำนักข่าวไทย