“ป้าไพ” แจ้งกองปราบ ตามหาหวย 12 ล้าน

กรุงเทพฯ 3 พ.ค.-“ป้าไพ” ร้องกองปราบ ตามคดีหวยอลเวง 12 ล้าน หลังสลักชื่อจองไว้กับแม่ค้าในสกลนคร โดยยังไม่ได้จ่ายเงิน แต่แม่ค้ากลับไปขายให้คนอื่น เบื้องต้น “ป้าไพ” อ้างจองหวยปากเปล่า เป็นธรรมเนียม ที่แม่ค้าในจังหวัดรู้ดี ว่าจองไว้ก่อนจ่ายเงินทีหลังได้


ความคืบหน้าคดีหวยอลเวง 12 ล้านบาท ที่นางไพมณี พลราชม อายุ 57 ปี แจ้งความกับ สภ.เมืองสกลนคร เมื่อ 6 มีนาคม 64 อ้างว่าถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 มี.ค.64 หมายเลข 835538 จำนวน 2ใบ ที่เขียนชื่อสลักหลังจองไว้กับนางรัตนา ภูละคร อายุ 58 ปี แม่ค้าลอตเตอรี่ แต่ยังไม่ได้จ่ายเงิน แล้วนางรัตนา กลับเอาไปขายให้คนอื่น ก่อนตำรวจทำเรื่องไปยังสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้อายัดลอตเตอรี่ทั้ง 2 ใบ พร้อมขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านนางรัตนา ไม่พบลอตเตอรี่ดังกล่าว พบเพียงใบที่ไม่ถูกรางวัล 41 ใบ และสมุดบัญชีรายชื่อลูกค้า

ล่าสุดเวลา 10.20 น. วันที่ 3 พฤษภาคม ที่กองบังคับการปราบปราม นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พร้อมนางไพมณี พลราชม อายุ 57 ปี เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อขอให้ช่วยติดตามหาหวยฉบับดังกล่าว หลังคดีล่วงมากว่าเดือนแต่ยังไม่มีความคืบหน้า


นายรัชพล กล่าวว่า คดีนี้ลากยาวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ทั้งที่ตำรวจบอกว่าคดีไม่มีอะไรซับซ้อนและบอกว่าคดีคืบหน้าไปกว่า 80% แล้ว แต่จนตอนนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า จึงต้องมาร้องขอกองปราบปราม ให้ช่วยเหลือ ตามหาหวยฉบับที่ป้าไพ เซ็นชื่อไว้ ซึ่งหวยฉบับนี้ ป้าไพ ได้ตกลงการซื้อขายปากเปล่า และฝากไว้กับป้ารัตน์ คนขายหวย ก่อนจะตามไปเก็บเงินที่บ้าน พร้อมยอมรับว่ายังไม่ได้ชำระเงินจริง ซึ่งป้าไพเล่าว่า การซื้อขายแบบนี้เป็นธรรมเนียมคนที่นี่ จึงถือว่า ป้าไพ มีกรรมสิทธิ์ในหวยแล้ว

ทั้งนี้ หากใครแจ้งเบาะแสหรือครอบครองหวยฉบับนี้อยู่ ป้าไพก็จะแบ่งเงินให้ 1 ล้านบาท และไม่เอาความ ส่วนเรื่องการขึ้นเงินรางวัลนั้น สำนักงานกองสลากได้แจ้งผลอย่างเป็นทางการว่า มีลอตเตอรี่รางวัลดังกล่าว 99 ใบ ถูกขึ้นเงินแล้ว 97 ใบ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ไม่มีใบใดลงชื่อป้าไพ

ด้านนางไพรัตน์ กล่าวว่า ได้สอบถามตำรวจท้องที่ไปแล้ว ก็ยังไม่มีอะไร จึงคิดว่าคดีช้าไปหรือไม่ และไม่ทราบว่าป้ารัตน์ เอาหวยไปขายให้คนอื่นทำไม ที่ผ่านมาได้ซื้อขายกันกับป้ารัตน์มา 3 ปีกว่าแล้ว ซึ่งปกติจ่ายเงินสด แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ตกลงปากเปล่าและเขียนชื่อไว้ คนทั่วไปรู้ดีว่าปกติทำกันแบบนี้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง