บราซิเลีย 27 เม.ย. – หน่วยงานควบคุมด้านสุขภาพของบราซิลไม่อนุมัติการนำเข้าวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของรัสเซีย หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ สปุตนิก-วี ตามคำร้องขอของผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ ในบราซิลที่ต้องการใช้วัคซีนดังกล่าวเพื่อรับมือกับการระบาดระลอกสองที่รุนแรง
คณะกรรมการ 5 คนของอันวิซา (Anvisa) ซึ่งเป็นหน่วยงานควบคุมด้านสุขภาพของบราซิล ลงมติเป็นเอกฉันท์ไม่อนุมัติให้ใช้วัคซีนสปุตนิก-วี หลังเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคเน้นย้ำว่าวัคซีนดังกล่าวมีปัจจัยเสี่ยงที่แฝงอยู่และมีข้อบกพร่องรุนแรง อีกทั้งยังขาดข้อมูลยืนยันความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ขณะที่ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการเฝ้าระวังด้านสุขภาพของอันวิซาระบุว่า เมื่อพิจารณาเอกสารทั้งหมด ข้อมูลที่ตรวจสอบเอง และข้อมูลจากหน่วยงานอื่น ๆ พบว่าวัคซีนสปุตนิก-วีมีปัจจัยเสี่ยงที่แฝงอยู่มากเกินไป นอกจากนี้ ผู้จัดการฝ่ายยาชีววัตถุของอันวิซายังกล่าวว่า วัคซีนดังกล่าวมีอะดีโนไวรัสที่อาจแพร่พันธุ์ได้ ซึ่งถือเป็นข้อบกพร่องรุนแรง ทั้งนี้ บราซิลได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสแรกให้แก่ประชาชนราว 27.3 ล้านคน ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 13 จากประชากรทั้งหมด 211 ล้านคน ขณะนี้ บราซิลมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 14.4 ล้านคน และผู้เสียชีวิตเกือบ 400,000 คน โดยที่พบผู้เสียชีวิตจำนวนมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
วัคซีนสปุตนิก-วีได้รับการอนุมัติใช้ในหลายประเทศทั่วโลก ขณะที่สถาบันกามาเลยาของรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวัคซีนดังกล่าว และกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซีย (RDIF) เผยเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า นักวิทยาศาสตร์ของรัสเซียระบุว่า วัคซีนสปุตนิก-วีมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 ได้สูงถึงร้อยละ 97.6 จากข้อมูลการทดสอบในกลุ่มผู้ทดลอง 3.8 ล้านคนทั่วโลก อย่างไรก็ดี สหภาพยุโรปยังคงไม่อนุมัติใช้วัคซีนของรัสเซียเช่นเดียวกับอันวิซา โดยระบุว่าจำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันผลการทดลองและกระบวนการผลิต.-สำนักข่าวไทย