กรุงเทพฯ 2 เม.ย. – คืนแรกตำรวจกลับมาตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ และป้องกันอาชญากรรม หลังโควิด-19 ระบาดทั่วประเทศ พบผู้กระทำผิดมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด 3 ราย
เมื่อคืนที่ผ่านมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะดูแลงานความมั่นคง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงตรวจสอบการปฏิบัติงานจุดตรวจหน้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง บนถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. เพื่อสร้างความโปร่งใสของการปฏิบัติงานให้ประชาชนเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของตำรวจ และจุดประสงค์เพื่อการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมบนท้องถนน โดยระหว่างการตรวจสอบผู้ที่ขับรถผ่านด่านตรวจ พบผู้กระทำผิดมีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ห้ามเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จำนวน 3 ราย ตำรวจควบคุมตัวดำเนินคดีที่ สน.โคกคราม ตามกฎหมาย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า สำหรับคืนนี้เป็นคืนแรกของการกลับมาตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ เพื่อป้องกันและปราบปรามอุบัติเหตุและอาชญากรรมบนท้องถนน ประกอบกับใกล้ช่วงหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึงนี้ โดยการตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ จะมีการตั้งกรวยสัญลักษณ์เตือนก่อนถึงจุดตรวจ ระยะไม่น้อยกว่า 100 เมตร ส่วนกรณีประชาชนพบเห็นด่านลอย หรือตำรวจเรียกตรวจโดยที่มีลักษณะต้องสงสัย สามารถร้องเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง จากนี้การตั้งด่านจะไม่เหมือนในอดีต เพราะมีการกำหนดรูปแบบ จะต้องมีอุปกรณ์ควบคุมการจราจร กล้องวงจรปิด เป็นรูปแบบเดียวกันทั้งด่านตรวจในตอนกลางวันและกลางคืน
ส่วนอำนาจการสั่งให้ตั้งด่าน ต้องเป็นผู้บังคับบัญชาระดับผู้บังคับการอนุมัติให้ตั้งเท่านั้น มีการบันทึกลงในระบบคอมพิวเตอร์ และออกเป็นเอกสารให้กับผู้ขับขี่ ต้องโปร่งใสและชัดเจน ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ ในขณะที่ผู้ขับขี่ก็เห็นด้วยกับการกำหนดมาตรฐานการตั้งด่านตรวจต่างๆ ให้ชัดเจน ที่ถูกใจมากคือ ประชาชนสามารถตรวจสอบได้
อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดบกพร่อง เช่น การตั้งด่านต้องส่งผลกระทบต่อการจราจรให้น้อยที่สุด ซึ่งต้องนำไปปรับปรุง และหากประชาชนพบด่านลอย หรือด่านตรวจที่ไม่ได้เป็นแบบแผนตามที่กำหนด สามารถร้องเรียนไปยังผู้รับผิดชอบได้โดยตรง เพื่อลงโทษตำรวจที่ไม่ปฏิบัติตาม จากนี้จะไม่มีด่านลอยให้เห็นอีกต่อไป. – สำนักข่าวไทย