เมียนมาประกาศกฎอัยการศึกใน 2 เขตของย่างกุ้ง

People flash a three-finger salute as they take part in an anti-coup night protest at Hledan junction in Yangon, Myanmar, March 14, 2021. REUTERS/Stringer

ย่างกุ้ง 15 มี.ค. – รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศกฎอัยการศึกในเขตไลง์ตายาและชเว-ปยีตา ซึ่งเป็น 2 เขตที่มีประชากรหนาแน่นของนครย่างกุ้ง หลังมีผู้ประท้วงเสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน จากเหตุเจ้าหน้าที่เมียนมาใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมครั้งใหญ่เมื่อวานนี้


เจ้าหน้าที่เมียนมาใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมของกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐประหารเมื่อวานนี้ และทำให้มีผู้ประท้วงเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมดราว 100 คนนับตั้งแต่กองทัพเมียนมาก่อรัฐปรหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ยึดอำนาจการปกครองจากนางออง ซาน ซู จี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้ง ขณะที่นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและกลุ่มสิทธิมนุษยชนเชื่อว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจมีมากกว่าที่รายงาน ด้านสถานีโทรทัศน์ของทางการเมียนมาประกาศว่า กองทัพประกาศใช้กฎอัยการศึกในเขตไลง์ตายาและชเว-ปยีตาของนครย่างกุ้งในช่วงค่ำวานนี้ ผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์กล่าวว่า รัฐบาลทหารเมียนมาให้อำนาจบริหารและอำนาจกฎอัยการศึกแก่ผู้บัญชาการภูมิภาคย่างกุ้ง เพื่อรักษาความปลอดภัย กฎหมาย และความสงบสุขอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ สองเขตดังกล่าวถือเป็นศูนย์กลางของโรงงานและเป็นที่ตั้งโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหลายแห่ง

เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในเขตไลง์ตายาปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงอย่างรุนแรง โดยผู้ประท้วงใช้กิ่งไม้และมีดป้องกันตัวเองในขณะที่กำลังวิ่งหนีไปหลบหลังสิ่งกีดขวางชั่วคราวบนท้องถนน นอกจากนี้ ผู้ประท้วงยังตัดถังขยะมาใช้เป็นโล่ป้องกันเพื่อไปช่วยเหลือผู้ประท้วงที่ได้รับบาดเจ็บในขณะที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยเปิดฉากยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วง ด้านแพทย์หญิงชาวเมียนมากล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า กลุ่มผู้ประท้วงเข้าไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บไม่ได้ทั้งหมด และยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว 15 คน ตอนนี้เธอกำลังรักษาผู้บาดเจ็บราว 50 คน และคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น


ในขณะเดียวกัน นางคริสติน ชราเนอร์ เบอร์กเนอร์ ทูตพิเศษว่าด้วยกิจการเมียนมาของสหประชาชาติระบุในแถลงการณ์ว่า เธอได้ยินเรื่องราวน่าสะเทือนใจมากมายเกี่ยวกับการเข่นฆ่า การทารุณผู้ชุมนุม และการทรมานผู้ถูกคุมขังจากคนที่เธอรู้จักในเมียนมา ความโหดร้ายที่เกิดขึ้นถือเป็นการทำลายโอกาสในการสร้างความสงบสุขและความมั่นคงในเมียนมาอย่างร้ายแรง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก