เชียงใหม่ 14 มี.ค. – หลายจังหวัดเหนือเผชิญฝุ่นพิษ กระทบสุขภาพ เชียงใหม่PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน 126 จุด 84-103 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ส่วนที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พุ่ง 193 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร แม่ฮ่องสอน 142 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ชาวเชียงใหม่ยังต้องเผชิญวิกฤติหมอกควันไฟป่านานติดต่อกันเป็นวันที่ 9 ท้องฟ้ายังขุ่นมัว ทัศนวิสัยแย่ มองไม่เห็นดอยสุเทพ มลพิษยังสูงมีผลกระทบต่อสุขภาพ ต้องออกฉีดพ่นละอองน้ำตามท้องถนนให้เกิดความชื้น
เช้าวันนี้ กรมควบคุมมลพิษรายงานค่าฝุ่น PM2.5 บริเวณ ต.สุเทพ ต.ศรีภูมิ และ ต.ช้างเผือก เกินมาตรฐานค่ามลพิษอยู่ที่ 84-103 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลดลงจากเมื่อวานเล็กน้อย แต่ยังมีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่ค่ามลพิษในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ทั้ง 25 อำเภอ สูงถึง 126 จุด เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องต้องนำรถดับเพลิงติดหัวสเปย์ออกฉีดพ่นละอองน้ำ ไปตามท้องถนน เพื่อให้เกิดความชื้นในอากาศ ช่วยดูดซับหมอกควัน
ส่วน จ.เชียงราย ในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย พบปริมาณฝุ่น PM2.5 มีค่า 193 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ จ.แม่ฮ่องสอน ต.จองคำ อ.เมือง พบปริมาณฝุ่น PM 2.5 มีค่า 142 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และในพื้นที่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง พบปริมาณฝุ่นมีค่า 71 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี เมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 541 จุด ค่อนข้างทรงตัวจากเมื่อวาน โดยภาคเหนือยังมีจุดความร้อนมากที่สุดอยู่ที่ 250 จุด ซึ่งมี 3 จังหวัดภาคเหนือยังคงมีจุดความร้อนสูง คือ แม่ฮ่องสอน 94 จุด รองลงมา คือ เชียงใหม่ 45 จุด และนครสวรรค์ 23 จุด ตามลำดับ ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร พื้นที่ป่าอนุรักษ์. – สำนักข่าวไทย