พิษณุโลก 9 มี.ค. – จากคนหายกลายเป็นศพ ฝีมือแฟนหนุ่มหึงโหดแฟนสาววัย 19 ปี คิดว่าแฟนสาวเริ่มตีตัวออกห่าง ลงมือบีบคอตายแล้วลากศพขึ้นรถกระบะนำร่างเผาอำพรางคดีในป่าลึก
ตำรวจ สภ.แก่งโสภา อ.ทอง จ.พิษณุโลก นำกำลังไปตรวจสอบหลังรับแจ้งพบศพถูกเผานั่งยางกลางป่าสวนยางพาราลึก พื้นที่หมู่ 11 บ้านม่วงหอม ต.บ้านกลาง อ.วังทอง พบร่างผู้เสียชีวิตสภาพถูกเผานั่งยาง จำนวน 3 เส้น เหลือเพียงกองกระดูก สภาพไหม้เกรียมจนจำเค้าเดิมไม่ได้
จากการตรวจสอบผู้เสียชีวิตคือ น.ส.จุฬารัตน์ อายุ 19 ปี ซึ่งญาติได้แจ้งความหายออกจากบ้านเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นแฟนหนุ่มของผู้เสียชีวิต อายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หลังก่อเหตุได้ให้ญาติพามามอบตัวเมื่อวานนี้
แม่ของผู้เสียชีวิตได้นิมนต์พระมาสวดและอัญเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน พร้อมเล่าว่า วันเกิดเหตุ คือช่วงค่ำวันที่ 26 กุมภาพันธ์ แฟนหนุ่มได้มารับลูกสาว บอกว่าจะพาไปหาหมอ จนกระทั่ง 2 ชั่วโมงผ่านไปก็ยังไม่กลับ จึงได้ตามไปสอบถามกลับบอกว่ามาส่งลูกสาวที่ท่ารถแล้ว จากนั้นจึงออกติดตามหาแต่ไม่พบ รู้สึกกระวนกระวายใจตลอด กระทั่งมารู้ว่าลูกสาวถูกฆาตกรรมก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก ส่วนเรื่องคดีอยากให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนแฟนหนุ่มใจโหดอยากให้มาขอขมาศพด้วย
ขณะที่เพื่อนๆ ของผู้ต้องหา ทันทีที่รู้ข่าวยอมรับว่าตกใจ ไม่เคยเห็นมุมเพื่อนของตัวเองที่อารมณ์รุนแรง ไม่คิดว่าความรักจะทำให้เพื่อนฆ่าคนได้
ล่าสุดตาของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า วันนี้พอทราบเรื่องว่าหลานชายฆ่าแฟนสาวตาย ญาติๆ กับครอบครัวรู้สึกตกใจมาก เพราะปกติหลานชายจะไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน เพียงแต่ชอบเล่นตีไก่เท่านั้น และทั้งคู่ก็หมั้นหมายเป็นคู่ครองกันแล้ว แต่ระยะหลังครอบครัวฝ่ายหญิงอยากให้เลิกกัน เพราะครอบครัวหลานชายมีฐานะยากจน ซึ่งตนเคยเตือนว่าอย่าเพิ่งหมั้นกันเลย ขอให้เรียนให้จบก่อนแล้วจะได้บวช ตอนนี้ครอบครัวก็ทุกข์ใจ อยากจะประกันตัวหลานชาย แต่ไม่รู้ว่าจะใช้หลักทรัพย์มากน้อยเพียงใด หรือตำรวจจะยอมให้ประกันตัวหรือไม่
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตและแฟนหนุ่มมีเรื่องทะเลาะกัน น่าจะมาจากความหึงหวง คิดว่าแฟนสาวตีตัวออกห่าง เพราะแฟนสาวจะเข้ามาทำงานในห้างสรรพสินค้าในตัวเมือง กระทั่งลงไม้ลงมือบีบคอจนตาย จากนั้นแฟนหนุ่มนำศพขึ้นรถกระบะและพามาเผาเพื่ออำพรางคดี.-สำนักข่าวไทย