อยุธยา 4 มี.ค.- แจ้งแล้ว 3 ข้อหา ภรรยาและหลานชาย ผู้ต้องหาคดีฆ่าหั่นศพเผาอำพรางในพื้นที่อยุธยา โดยวันนี้ตำรวจเตรียมคุมตัวส่งศาลฝากขัง พร้อมคุมตัวเข้าพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อค้นหาอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุ
พันตำรวจเอกพิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผู้กำกับการ สภ.วังน้อย เปิดเผยความคืบหน้าคดีพบชิ้นส่วนมนุษย์เพศชายช่วงลำตัวไม่มีศีรษะไม่มีแขน ไม่มีขา นำมาเผาทิ้งริมถนนทางเข้าโรงงานอิฐบล็อก อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และพบชิ้นส่วนท่อนขา ท่อนแขน นำมาเผาทิ้งริมถนนสาย 347 บางปะอิน-บางปะหัน เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ซึ่งภายหลังชุดสืบสวน แกะรอยภาพจากกล้องวงจรปิด พบรถกระบะต้องสงสัยยี่ห้ออีซูซุ สีขาวขับมาจอดในพิกัดใกล้กับจุดเกิดเหตุ ทำให้มีหลักฐานสำคัญนำไปเปรียบเทียบกับรถกระบะที่ใช้เคลื่อนย้ายศพทิ้งอำพราง จนนำไปสู่การจับกุม 2 ผู้ต้องหา คือนางวาสนา หรือ จอย เข็มขาว อายุ 34 ปี ภรรยา ของนายสุบิน เกตุหิรัญ ผู้เสียชีวิต และนายอนันตชัย ถิ่นชัยโย อายุ 23 ปี หลานชายได้
คดีนี้เบื้องต้นการเค้นสอบผู้ต้องหายอมรับก่อเหตุเพราะสุดทนที่ผู้ตายมักทำร้ายร่างกายนางวาสนาบ่อยครั้ง และทะเลาะกันตลอด 20 ปีที่อยู่ด้วยกัน โดยนางวาสนาเคยไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ตายแล้ว 2 ครั้งในคดีทำร้ายร่างกาย ส่วนเหตุการณ์ล่าสุด เหตุการณ์เกิดขึ้นคืนวันที่ 28 กุมภาพันธ์ โดยนางวาสนามีปากเสียงกับผู้ตาย จากนั้นนายอนันตชัย หลานชายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านย่านนนทบุรี เห็นผู้ตายทะเลาะกับนางวาสนาทำให้ทนไม่ไหวคว้ามีดสปาต้าที่พกติดตัวมาด้วย แทงเข้าไปที่ราวนมผู้ตาย
ก่อนที่ทั้งคู่จะปรึกษากันและตัดสินใจอำพรางศพ โดยนางวาสนาไปซื้อถุงดำ เชือก ที่ร้านสะดวกซื้อ ส่วนหลานชายลงมือชำแหละศพที่ห้องน้ำ ก่อนจับยัดใส่ถุงดำ นำใส่รถกระบะไปตระเวนทิ้งตามจุดต่างๆ ในพื้นที่อยุธยา โดยแขนขา ทิ้ง และเผาที่อำเภอบางปะอิน ศีรษะทิ้งในป่า และลำตัวทิ้งในพื้นที่รกร้างทางเข้าโรงงานทำอิฐบล็อกในอำเภอวังน้อย จากนั้นนำรถกระบะที่บรรทุกชิ้นส่วนไปจอดทิ้งไว้ที่อพาร์ตเมนต์ในซอยอัญชลี 4 จังหวัดนนทบุรี กระทั่งถูกแกะรอยติดตามจับกุม ซึ่งผู้ต้องหาถูกแจ้ง 3 ข้อหา คือร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ปิดบังซ่อนเร้นศพ ทำลายศพเพื่อปิดบังการเสียชีวิต โทษจำคุก 20 ปี ก่อนคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านย่านนนทบุรี ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ทำให้มีหลักฐานเพิ่มเป็นร่องรอยคราบเลือดในห้องโถงรวม 7 จุด เชือกและถุงที่ใช้มัดศพ
อย่างไรก็ตาม แม้ผู้ต้องหาจะยอมรับ แต่ของกลางอย่างอาวุธมีดที่ใช้สังหารยังล่องหน เนื่องจากผู้ต้องหาบอกว่านำไปโยนทิ้งในคลอง พื้นที่เขตพระโขนง กรุงเทพฯ ตำรวจจึงได้คุมตัวผู้ต้องหาไปหาของกลาง ก่อนคุมตัวส่งศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว
ขณะที่ พันตำรวจเอกพิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผู้กำกับการ สภ.วังน้อย ให้ข้อมูลเพิ่มว่า คดีนี้ยังไม่ได้เรียกใครมาสอบสวนเพิ่ม เพราะต้องรอให้ชุดสืบสวนหาอาวุธสังหารเจอก่อนพิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไป.-สำนักข่าวไทย