กทม.แจงตลาดนัดจตุจักรไม่ใช่แหล่งแพร่โควิด

กทม.25 ก.พ.-สำนักงานตลาด กทม. ชี้แจงตลาดนัดจตุจักรไม่ใช่แหล่งแพร่โรคโควิด-19 เพราะไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาจำหน่าย-อนุญาตเฉพาะสินค้าประเภทเสื้อผ้า-ของใช้เบ็ดเตล็ด-ต้นไม้ และที่ผ่านมาดำเนินตามมาตรการป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง


นายพินิต อารยะศิลปธร ผู้อำนวยการสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีสื่อต่างประเทศเสนอข่าวตลาดค้าสัตว์ในสวนจตุจักร กรุงเทพฯ อาจเป็นสถานที่ต้นกำเนิดเชื้อโควิด-19 ก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดที่เมืองอู่ฮั่นของจีน และทำให้เกิดการแพร่ระบาดไปทั่วโลกว่า ตลาดนัดจตุจักร ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักงานตลาดกรุงเทพมหานคร ไม่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้ามาจำหน่ายแต่อย่างใด โดยอนุญาตให้จำหน่ายเฉพาะสินค้าประเภทเสื้อผ้า ของใช้เบ็ดเตล็ด และต้นไม้เท่านั้น

ที่ผ่านมา กทม.ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19)ในตลาดนัดจตุจักรอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ค้าและประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ โดยเพิ่มความถี่ล้างทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในตลาด จึงขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเชื่อมั่นในความปลอดภัยในการเข้าใช้บริการภายในตลาดนัดจตุจักร


นายอาฤทธิ์ ศรีทอง ผู้อำนวยการเขตจตุจักร กทม. กล่าวว่า สำหรับตลาดค้าสัตว์ตามที่สื่อต่างประเทศระบุคาดว่าเป็นตลาดศรีสมรัตน์ ซึ่งเป็นตลาดเอกชนที่อยู่ในบริเวณข้างเคียงกับตลาดนัดจตุจักร ตั้งอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) บริเวณถนนกำแพงเพชร 4 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร เป็นตลาดจำหน่ายสัตว์เลี้ยง สัตว์ปีก ปลาสวยงาม ซึ่ง กทม. โดยสำนักงานเขตจตุจักร ได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ร.ฟ.ท. กองกำกับการตำรวจรถไฟ กอ.รมน.กทม. พร้อมลงพื้นที่ตลาดศรีสมรัตน์ พบว่ามาตรการป้องกันโควิด-19 ยังไม่เป็นไปตามที่กำหนด จึงได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการตลาดดังกล่าวจัดระเบียบแผงค้าและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ซึ่งสำนักงานเขตจตุจักรได้ดำเนินการตรวจแนะนำให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ในตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยให้ล้างทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบริเวณตลาด จำกัดทางเข้า-ออก มีการตั้งจุดคัดกรอง ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ผู้มาใช้บริการ และจุดลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะ จัดให้มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่างๆ และภายในร้านติดป้ายจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ กำหนดจุดเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดความแออัด และกำหนดให้ผู้ค้าและผู้ที่มาใช้บริการต้องสวมหน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยทุกคน เป็นต้น เพื่อความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ค้าและประชาชนที่เข้ามาใช้บริการ

นอกจากนี้ได้ประสานหารือกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งกรมอุทยานฯ ระบุข้อมูลที่กล่าวว่า ไทยอาจเป็นแหล่งแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19 ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]