ทำเนียบรัฐบาล 15 ก.พ.-ศบค.เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน การตรวจคัดกรองยังต้องทำต่อเนื่อง ขอความร่วมผู้ค้าในตลาดป้องกันเข้มข้น แจงเพิ่มเวลากักตัว เพิ่มเวลากักตัว เป็น 21 วันผู้เดินทางจากประเทศเสี่ยงสูง
พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19 ) แถลงตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่ ว่าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 143 ราย ยอดผู้ป่วยสะสม 24,714 ราย มีผู้ป่วยรักษาหายกลับบ้านได้เพิ่ม 772 ราย และยังอยู่ระหว่างการรักษา 1,749 ราย ขณะที่ยอดผู้ป่วยรักษาหายสะสม 22,883 ราย สำหรับผู้ติดเชื้อรายใหม่ 143 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศจำนวน 132 คน และมีผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ ตรวจพบเชื้อในสถานที่กักกันตัวที่รัฐจัดให้ 11 คน
ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 2 คน ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 82 คน โดยผู้เสียชีวิตรายที่ 81เป็นชาวอุบลราชธานี มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน โรคไต ความดันสูง ผู้เสียชีวิตคนที่ 82 เป็นชาวสมุทรสาคร อายุ 78 ปี ไม่ได้ออกจากบ้าน แต่มีประวัติรับประทานอาหารร่วมกับบุตรสาวที่ป่วยติดโควิด -19 จึงฝากเตือนสำหรับการพบปะและรวมตัวของครอบครัว จะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด -19 อย่างเคร่งครัด ต้องสวมหน้ากากอมามัยและเว้นระยะห่าง
พญ.อภิสมัย กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ทั่วโลก พบตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลง โดยยอดผู้ติดเชื้อรวมกว่า 109 ล้านราย รักษาหายแล้วกว่า 81 ล้านราย และเสียชีวิตกว่า 2,400,000 ราย โดยประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ สหรัฐอมเริกา อินเดีย บราซิล รัซเซีย และสหราชอาณาจักร ประเทศไทยยังอยู่อันดับที่้ 114
ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า จากการตรวจคัดกรอง พบตัวเลขผู้ติดเชื้อในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครสูงถึง 69 ราย และพบการแพร่ระบาดเชื่อมโยงไปยังจังหวัดปทุมธานี และจังหวัดใกล้เคียงอื่น
ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า การตรวจคัดกรองเข้มข้นยังต้องดำเนินต่อไป รวมถึงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี และตาก โดยเฉพาะพื้นที่ตลาดและชุมชน ซึ่งจากการการตรวจคัดกรองพบว่าการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดกลางตลาดที่อากาศไม่ถ่ายเท ศบค.จึงเน้นย้ำให้ผู้ค้าและประชาชนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด -19 อย่างเข้มงวด ทั้งการสวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง และการรักษาความสะอาด พร้อมขอความร่วมมือประชาชนหากพบติดเชื้อหรือมีประวัติไปพื้นที่เสี่ยง ต้องแจ้งทันทีเพื่อเข้ารับการตรวจรักษา
“ส่วนกรณีคนไทยกลับจากต่างประเทศและพบโควิด -19 สายพันธุ์แอฟริกาในไทยคนแรก เป็นชายไทยอายุ 41 ปี มีประวัติไปงานเลี้ยงและไม่สวมหน้ากากอนามัย จากนั้นเดินทางจากแทนซาเนียต่อเครื่องเอธิโอเปีย กลับถึงไทยวันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา เข้ารับการกักตัวที่รัฐจัดให้ โดยตรวจพบเชื้อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ มีไข้ต่ำและไอ เมื่อส่งตัวรักษาและกรมควบคุมโรคตรวจพบและยืนยันว่าเป็นสายแอฟริกา ทั้งนี้ ยืนยันว่าไทยเข้มงวดการเผ้าระวังโควิด -19 ทุกสายพันธุ์ และผู้เดินทางจากต่างประเทศเข้าไทยจะต้องผ่านการคัดกรองและกักตัวทุกคน โดยประเทศที่มีความเสี่ยงสูงจะเพิ่มระยะเวลากักตัว เป็น 21 วัน” พญ.อภิสมัย กล่าว
ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวถึงการจัดลำดับการฉีดวัคซีนโควิด -19 ว่าคณะกรรมการวัคซีนจะต้องวางแผนการฉีดเป็นระยะ ๆ โดยระยะแรกจะกระจายไปพื้นที่เสี่ยงและบุคลากรทางการแพทย์ ส่วนจังหวัดท่องเที่ยวคาดว่าจะได้รับวัคซีนระยะที่สองแน่นอน ยืนยันว่าการกระจายวัคซีนจะพิจารณาอย่างรอบคอบ ไปจนถึงการจัดเก็บ โดยอยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยเป็นสำคัญ.-สำนักข่าวไทย