น.1 ยืนยันตำรวจไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุม

กทม. 11 ก.พ.- ผบช.น.นำทีมแจงที่มาที่ไปเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้นระหว่างการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร ย้ำตำรวจไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตา และจำเป็นต้องดำเนินคดีผู้กระทำผิด


พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงชี้แจงกรณีเหตุการณ์ชุลมุนระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร กับตำรวจหน้า สน.ปทุมวัน ค่ำวานนี้ (10 ก.พ.) ว่า เริ่มต้นจากตำรวจได้จับกุมผู้ชุมนุม 4 คน ที่ฉีดพ่นสเปรย์สีป้ายผ้า พกพาพลุควันสี และดิ้วเหล็ก ซึ่งสามารถใช้ทำอันตรายผู้อื่นได้ บริเวณจุดตรวจก่อนเข้าพื้นที่การชุมนุมบนสกายวอล์กสี่แยกปทุมวัน จากนั้นผู้ชุมนุมได้เคลื่อนขบวนติดตามมา สน.ปทุมวัน เพื่อกดดันให้ตำรวจปล่อยตัวทั้ง 4 คน ซึ่งไม่สามารถทำได้เพราะต้องดำเนินคดีเสียก่อน

ระหว่างนั้นเกิดเสียงดังและมีความวุ่นวายระหว่างผู้ชุมนุมกับตำรวจขึ้น โดยมีผู้อ้างว่าได้รับผลกระทบจากสารคล้ายแก๊สน้ำตา ขอชี้แจงว่าปกติก่อนใช้แก๊สน้ำตา ตำรวจต้องประกาศแจ้งเตือน และสวมใส่เครื่องป้องกันให้ตัวเองก่อน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ตำรวจจะเป็นฝ่ายใช้แก๊สน้ำตา และกองร้อยควบคุมฝูงชนก็เพิ่งเดินทางถึง สน.ปทุมวัน ยังไม่มีการจัดกำลังตั้งแถวตามยุทธวิธีแต่อย่างใด ส่วนจะเป็นฝ่ายใดใช้แก๊สน้ำตานั้นต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง


สำหรับกระบอกแก๊สน้ำตาที่พบในจุดเกิดเหตุ เป็นแก๊สน้ำตาที่มีใช้ในราชการ แต่ในการชุมนุมก่อนหน้านี้มีรถยนต์ของตำรวจถูกผู้ชุมนุมทุบทำลายและมีอุปกรณ์ควบคุมฝูงชนสูญหายไปหลายชนิด เช่นเดียวกับเมื่อวาน (10 ก.พ.) ผู้ชุมนุมก็มีการใช้พลุควัน บางส่วนเข้าไปทำลายรถยนต์ทางราชการเสียหาย 8 คัน และมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 7 นาย ซึ่งจะต้องมีการดำเนินคดีผู้ก่อเหตุแต่ละรายตามในความผิดฐาน พ.ร.บ.การชุมนุม และต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน และทำร้ายร่างกาย

ส่วนสถานการณ์ในช่วงเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคล ในสัปดาห์หน้านั้น ตำรวจจะติดตามข้อมูลทางการข่าวพร้อมปรับแผนดูแลความสงบเรียบร้อยให้เหมาะสม โดยต้องพิจารณาว่าจะประกาศให้พื้นที่รอบอาคารรัฐสภา เกียกกายเป็นพื้นที่ควบคุมหรือไม่

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลยังระบุว่า ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่มาชุมนุมโดยสงบ แต่มีส่วนน้อยที่มักสร้างความวุ่นวาย ซึ่งต่อไปคงต้องปรับยุทธวิธีให้เหมาะสมโดยการเพิ่มการใช้ปืนยิงกระสุนยาง หรือปืนยิงตาข่ายเข้ามาร่วมในการควบคุมฝูงชน .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปมเหตุเผาพ่อค้าแตงโมเสียชีวิต กลางลานจอดรถ

เผยปมเหตุเผาพ่อค้าขายแตงโมกลางลานจอดรถวัดดังย่านยานนาวา ล่าสุดลูกสาวโพสต์เศร้า หลังพ่อเสียชีวิต พบประวัติผู้ก่อเหตุเพิ่งพ้นโทษคดีพยายามฆ่าเมื่อ 4 ปีก่อน

ระงับทุนการศึกษาเมียนมา

VOA ส่งตรงจากสหรัฐ : “ทรัมป์” ระงับทุนการศึกษา นศ.เมียนมา

นักเรียนทุนเมียนมาตกใจเมื่อพบว่าทุนการศึกษาของพวกเขาถูกยกเลิกไปกะทันหัน หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระงับงบประมาณ 45 ล้านดอลลาร์ที่ให้กับนักศึกษาเมียนมากว่า 400 ชีวิต ภายใต้องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐ หรือ USAID คุณคมสัน ศรีธนวิบุญชัย ผู้สื่อข่าววีโอเอไทย ส่งรายงานมาจากสหรัฐ

ฆ่ายัดกระเป๋า

พบเบาะแสคนร้าย คดีฆ่าสาวยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ

พบเบาะแสคดีฆ่าสาวปริศนา ยัดกระเป๋าถ่วงน้ำ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยเห็นรถต้องสงสัยบริเวณจุดทิ้งศพ เชื่อวนกลับมาดูว่าศพลอยน้ำหรือไม่

สาดน้ำร้อน

คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต ดำเนินคดีเพิ่ม

ตำรวจ คุมตัว “พีม-โอชิ” มือสาดน้ำซุปรังสิต มาโรงพัก แม่ผู้เสียหายร้องไห้ถาม “ทำแบบนี้กับลูกของแม่ทำไม สำนึกผิดบ้างไหม”

ข่าวแนะนำ

ยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER

วันนี้ตำรวจภูธรภาค 2 ร่วมกับ กสทช. ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้ว เปิดยุทธการอรัญฯ 68 SEAL BORDER สกัดกั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงคนไทย

นายกฯ เปิดทำเนียบฯ รับ “นาโอมิ แคมป์เบลล์”

นายกฯ เปิดทำเนียบฯ รับ “นาโอมิ แคมป์เบลล์” นางแบบดังระดับโลก บอกดีใจที่ได้เจอ ก่อนหารือ อุตสาหกรรมแฟชั่น หวังต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ด้าน “นาโอมิ” บอกตื่นเต้นที่จะได้ช่วยงาน ชมนายกฯ ชอบแฟชั่นที่แตกต่าง เป็นเรื่องที่ดี

Myawaddy City Fuel Shortage, Cars Have to Travel to Mae Sot to Buy

เปิดภาพรถข้ามมาเติมน้ำมันที่แม่สอด จนติดยาวเหยียด

เมียวดี 10 ก.พ.- สื่ออิสระของเมียนมาโพสต์ภาพยวดยานจำนวนมากในเมืองเมียวดี พากันข้ามพรมแดนมายังอำเภอแม่สอด จังหวัดตากของไทยในเช้าวันนี้ เพื่อเติมน้ำมัน จนรถติดขัดยาวเหยียด เฟซบุ๊กของสำนักข่าวท่าขี้เหล็ก (Tachileik News Agency) ซึ่งเป็นสื่ออิสระที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ของสหรัฐรายงานบรรยากาศในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาในเช้าวันนี้ว่า หลังจากทางการไทยจำกัดการส่งกระแสไฟฟ้าและน้ำมันเชื้อเพลิงไปยังพื้นที่พรมแดน 5 จุดในเมียนมาตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ โดยมุ่งเน้นเป้าหมายในเมียวดีและกวาดล้างแก๊งอาชญากรชาวจีน ขณะนี้ประชาชนบริเวณพรมแดนในฝั่งเมียนมากำลังประสบกับภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้ยวดยานจำนวนมากต้องเดินทางข้ามพรมแดนไปเติมน้ำมันที่ฝั่งไทย ชาวเมียวดีคนหนึ่งเผยว่า สามารถขับรถข้ามไปเติมน้ำมันในฝั่งไทยได้ แต่ห้ามเติมเป็นถังแกลลอน ที่ผ่านมารถในเมียวดีขับไปเติมน้ำมันที่ไทยอยู่เป็นปกติ แต่ขณะนี้มีรถจำนวนมากขึ้น และเข้าออกบ่อยครั้งขึ้น สิ่งที่ชาวเมียวดีต้องการคือน้ำมัน เมื่อเติมเสร็จก็ข้ามกลับ ชณะที่ชาวเมียวดีอีกคนคิดว่า ในอนาคตไทยอาจจะจำกัดจำนวนครั้งที่อนุญาตให้รถแต่ละคันข้ามไปเติมน้ำมัน สำนักข่าวท่าขี้เหล็กรายงานด้วยว่า รัฐมนตรีกลาโหมของไทยกล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ว่า ไทยจะห้ามการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงไปเมียวดี ท่าขี้เหล็ก และพญาตองซู เป็นเวลา 6 เดือน.-814.-สำนักข่าวไทย