สธ. 8 ธ.ค.- รมว.สธ.เผยวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค เข้าไทย 2 แสนโดส ตามกรอบ ก.พ.นี้ เตรียมกระจายฉีดให้เป็นวัคซีนเข็มแรก กับกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ควบคุมสูงสุดก่อน เพื่อควบคุมโรค ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ และ ประชาชนโรคเรื้อรัง และผู้สูงอายุ 60 ปี
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติครั้งที่ 2/2564 ว่า วันนี้ที่ประชุมได้มีการพิจารณาเรื่องแผนกระจายวัคซีนโควิด -19 ในระยะต้น โดยวัคซีนที่จะมาถึงก่อนและคาดว่าจะมีการฉีด ได้แก่ ซิโนแวค จำนวน 2 ล้านโดส ตามกรอบสัญญาเบื้องต้น 2 แสนโดส ถึงไทยภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากนั้นเดือนมีนาคม 8 แสนโดส และเมษายน 1 ล้านโดส ซึ่งก็ต้องเชื่อตามข้อตกลงทางการค้า ที่ทำร่วมกันทั้ง 2 ฝ่าย หลังที่ซิโนแวคผ่านการรับรองจาก อย.ของจีน ก็มีผลให้การขึ้นทะเบียนในต่างประเทศน่าจะง่ายและรวดเร็วขึ้น โดยในส่วนของไทยก็เป็นการขึ้นทะเบียนแบบฉุกเฉินในไทย ส่วนการฉีดในแรงงานต่างด้าว คงต้องมีการหารือร่วมกับกระทรวงแรงงาน และนายจ้างต่อไป
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับวัคซีนซิโนแวค 2 ล้านโดส ที่จะมาถึงตั้งเป้าฉีดให้แล้วเสร็จภายใน 2-3 เดือน ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และผู้ป่วย เพราะถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ ประชาชนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไป แรงงานในภาคอุตสาหกรรม โดยเป้าการฉีดจะนำเรื่องเกณฑ์พื้นที่ มาประกอบการพิจารณาก่อน ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสูงสุด อย่าง จ.สมุทรสาคร จะได้รับวัคซีนก่อน เพื่อควบคุมโรคในพื้นที่ และตามมาด้วยพื้นที่ควบคุมสูงสุด อย่าง กทม. รวมถึง พื้นที่ที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง เช่น ในภาคตะวันออก อย่างชลบุรี และ จ.ตาก ซึ่งวัคซีนที่มา ในรอบแรก 2 แสนโดสนี้ จะนำมาฉีดเป็นวัคซีนเข็มแรกก่อน
นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนวัคซีนของแอสตราเซเนกา 61 ล้านโดส หากได้รับในเดือน พ.ค. จะพยายามเร่งรัดการฉีดให้แล้วเสร็จ ภายใน 4 เดือน โดยภาพรวมของการกระจายฉีดวัคซีนนั้น หากได้รับวัคซีน จะมีการฉีดให้ได้ 5 ล้านคนต่อเดือน จากนั้น 10 ล้านคนต่อเดือน พร้อมกันนี้ยังกล่าวว่าจากการสำรวจความคิดเห็นของบุคลากรทางการแพทย์ ในการรับวัคซีนด้วยความสมัครใจ พบว่าในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร บุคลากรทางการแพทย์ ร้อยละ 90 มีความสมัครใจ .-สำนักข่าวไทย