กรุงเทพฯ 5 ก.พ. – ชาวบ้านหนีตายอลหม่าน ไฟไหม้ชุมชนหลังสามร้อยห้อง ภายในซอยเจริญกรุง 99 วัดพระยาไกร กลางดึก เจ้าหน้าที่ใช้เวลานาน 2-3 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 5 หลัง
ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ชุมชนหลังสามร้อยห้อง ภายในซอยเจริญกรุง 99 วัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม จังหวัดกรุงเทพมหานคร จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัย อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบกลุ่มควันและแสงไฟที่บ้านหลังหนึ่งแล้วลุกลามอย่างรวดเร็วไปยังบ้านใกล้เคียงถึง 3 หลัง และติดบ้านข้างเคียงอีก 2 หลัง
เจ้าหน้าที่ดับเพลิง พร้อมอาสาสมัครหน่วยงานต่างๆ จึงรีบเร่งให้การช่วยเหลือ แต่สิ่งที่เป็นอุปสรรคคือภายในชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนที่ปลูกบ้านติดกันหลายหลัง ส่วนใหญ่จะปลูกสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมด จึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี อีกทั้งซอยคับแคบ ผู้คนในชุมชนหนาแน่นมาก จึงยากต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งไม่มีแหล่งน้ำธรรมชาติและประปาหัวแดงที่ใช้สำหรับต่อสายดับเพลิง เจ้าหน้าที่ต้องใช้วิธีเปิดท่อระบายน้ำเพื่อดึงน้ำจากท่อขึ้นมาดับไฟแทนแต่เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงที่ไม่มีฝน ทำให้น้ำในท่อน้ำเสียมีค่อนข้างน้อย เจ้าหน้าที่ต้องประสานขอรถน้ำจากหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ใช้เวลาดับไฟนาน 2-3 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ แต่มีเพียงบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง 3 หลัง ส่วนอีก 2 หลังที่ติดกันก็ได้รับความเสียหายอีก 50% ของตัวบ้าน
จากการสอบถามนางวรรณา สุขใส อายุ 55 ปี ทำงานเป็นแม่บ้านบริษัท อาศัยอยู่ในบ้านที่เกิดเหตุไฟไหม้ เล่าว่า เพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน พอมาถึงก็เกิดเหตุไฟไหม้แล้ว จึงรีบวิ่งมาดูพบว่าบ้านถูกไฟไหม้ทั้งหลัง ทรัพย์สินมีค่า รวมทั้งเอกสารสำคัญ ไม่สามารถเอาออกมาได้เลย ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทราบแต่ว่าต้นเพลิงเกิดจากรั้วข้างบ้านของตนเแล้วลุกลามมาที่ตัวบ้าน
ชาวบ้านต่างบอกกันว่าถ้าในชุมชนแห่งนี้มีประปาหัวแดงก็จะสามารถควบคุมเพลิงได้เร็วกว่านี้ อีกอย่างเป็นชุมชนที่คับแคบ รถน้ำดับเพลิงจะเข้ามาไม่ถึงในที่เกิดเหตุ วอนให้หน่วยงานของภาครัฐหรือเอกชนที่พอจะช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบในเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ด้วย
เบื้องต้นตำรวจรอผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้ง และให้ผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านทั้ง 5 หลังคาเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการถูกไฟไหม้ไปสอบถามเพิ่มเติมที่ สน. เพื่อลงบันทึกเป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย