สธ. 2 ก.พ.-คณบดีศิริราช แจงผลการรับวัคซีนโควิดในต่างประเทศ พบมีการฉีดไปแล้ว 100 ล้านโดส ในประชากร 46 ล้านคน ย้ำเทคโนโลยีของวัคซีนไม่แตกต่าง ช่วยลดอัตราป่วยและความรุนแรง ผลของการฉีดส่วนใหญ่เวียนศีรษะ มีไข้ ปวดบวม แค่ 1-2 วันหาย ส่วนอัตราตายน้อยมาก
นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราช มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงการติดตามประสิทธิภาพวัคซีนโควิด -19 ในหลายประเทศว่า ขณะนี้ทั่วโลกฉีดไป 100 ล้านโดส หรือรวม 46 ล้านคน โดยพบว่าสหรัฐอเมริกา ฉีดไปแล้ว 23 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 328 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 7 สหราชอาณาจักร ฉีดไปแล้ว 8.38 ล้านคน จากประชากรทั้งหมด 66 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 12.57 อิสราเอล ฉีดไปแล้ว 1 ใน 3 ของประชากรในประเทศ หรือ 2.97 ล้านคน จากประชากรในประเทศ 8.8 ล้านคน โดยข้อมูลผลกระทบจากการฉีดวัคซีนพบว่า ก่อให้เกิดอาการเล็กน้อย ปวดบวมแดง มีไข้ เวียนศีรษะ เป็นแค่ 1-2 วัน แรก จากกนั้นอาการก็หายไป ส่วนการเสียชีวิตมีน้อยมาก ย้ำการรับวัคซีนต้องได้รับถึง 2 เข็ม ห่างกัน 3 สัปดาห์ และวัคซีนจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันเมื่อผ่านพ้น 1 สัปดาห์ไปแล้ว
นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับเทคโนโลยีของวัคซีนที่มีการฉีดกันขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็น mRNA รองลงมา ไวรัลเวกเตอร์ รวมถึงวัคซีนเชื้อตาย ซึ่งส่วนใหญ่ของประเทศที่มีการฉีดวัคซีน พบว่าส่วนใหญ่มีการฉีดวัคซีนทุกประเภท ไม่จำกัดแค่เทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่ง และอาการจากวัคซีนก็พบว่า กราฟอัตราการป่วยในกลุ่มประเทศฉีดวัคซีน ทั้งสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักรลดลง แต่อัตราตายยังไม่ชัดเจน แต่มีแนวโน้มลดลง พร้อมยกตัวอย่าง สหราชอาณาจักร ฉีดวัคซีนเป็นประเทศแรกในโลกตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค. เนื่องจากปัญหาเรื่องของไวรัสมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ จึงเริ่มฉีดก่อน โดยพบว่าอัตราป่วยค่อยๆ ลดลง เช่นเดียวกับ สหรัฐอเมริกา ที่เริ่มฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. อัตราการป่วยก็ค่อยๆ ลดลงเช่นกัน
นพ.ประสิทธิ์ กล่าวย้ำว่า การฉีดวัคซีนมีผลต่อการเพิ่มภูมิคุ้มกันหมู่ของประชากรในประเทศ โดยการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ต้องอาศัยภูมิคุ้มกันของประชากรจำนวนมาก หมายว่าต้องมีการฉีดวัคซีนประชากรจำนวนมากเช่นกัน อย่างประเทศไทย คาดว่าต้องมีการฉีดถึง ร้อยละ 60 -70 ของประชากรในประเทศ พร้อมย้ำวัคซีนของการฉีดวัคซีน ก็เพื่อลดอัตราการป่วยและ ลดความรุนแรงของโรค พร้อมย้ำในส่วนตัวเห็นว่า ไม่ว่าวัคซีนตัวใดเข้ามาควรรับวัคซีนก่อนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน พร้อมเชิญชวนคนไทย รับวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน.-สำนักข่าวไทย