ลพบุรี 29 ม.ค. – คุณยายแสง สุขคุ้ม อายุ 99 ปี ที่ได้รับหมายศาลเรียกเงินเบี้้ยผู้สูงอายุคืนจำนวนเกือบแสนบาทตัดพ้อ ไม่มีเงินคืนหลวง หากจะต้องติดคุกก็ยอม ทุกวันนี้ต้องอาศัยลูกหลาน ทุกคนต้องต่อดิ้นรนทำมาหากินเพื่อความอยู่รอด
ที่จังหวัดลพบุรี มีการเรียกเก็บเงินผู้สูงอายุคืนจากกรณีรับเงินซ้ำซ้อน 10 ราย ซึ่งในนั้นคือ คุณยายแสง สุขคุ้ม อายุ 99 ปี โดยมีหมายศาลเรียกเงินคืนเป็นจำนวนเงินเกือบๆ 100,000 บาท
ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับคุณยายแสง คุณยายบอกว่า ใครจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ ไม่มีปัญญาจะไปไหนแล้ว เงินที่ว่าก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหนมาคืนเขา ทุกวันนี้ต้องอาศัยชายคาลูกหลานอยู่ ลูกหลานทุกคนก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนทำมาหากิน เพื่อความอยู่รอดกันทั้งนั้น หากจะต้องติดคุกยายก็ยอม บอกว่าอีกไม่นานก็จะอายุ 100 ปีแล้ว
ด้านนางกมลวรรณ พวงทรัพย์ อายุ 64 ปี ลูกสาวที่ดูแลคุณยาย เปิดเผยว่า แม่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนละ 300 บาท จนปัจจุบันได้รับเดือนละ 1,000 บาท รวมแล้ว 38 ปี และแม่ได้รับเงินบำนาญตกทอดมาจากลูกชายที่เป็นอดีตข้าราชการทหารที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เดือนละ 10,000 บาท โดยในช่วงที่มีเจ้าหน้าที่มาสำรวจในการรับเบี้ยผู้สูงอายุ แม่ไม่เข้าใจในเรื่องดังกล่าว ก็ตอบรับเงินจากภาครัฐซ้ำซ้อนไป จนเวลาล่วงเลยมาเกือบ 40 ปีแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าทางรัฐมีความยุติธรรมกับแม่ไหม นางกมลวรรณตอบว่า รัฐบาลไม่มีความยุติธรรมกับแม่ตน แม่ไม่ได้เป็นคนผิด อยากให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวบางรายลูกหลานมีเงินก็พอบรรเทา บางคนไม่มีจะทำอย่างไร คงจะต้องผูกคอตาย หากต้องคืนเงินคงหาไม่ได้แน่ คุยกับแม่แล้วแม่ยอมติดคุก และในส่วนที่จะให้ลูกๆ ชำระหนี้แทนคงไม่มีใครยอมรับทั้งนั้น จู่ๆ ก็มาฟ้องร้องกันแบบนี้ โดยที่ไม่ได้เป็นคนผิดแม้แต่น้อย ใครที่ผิดตั้งแต่ต้นทำไม่ไม่ไปฟ้องเขา
ผู้สื่อข่าวถามนางกมลวรรณว่าถ้าหากมีนักกฎหมาย ทนายความเข้ามาช่วยเหลือจะดีไหม ซึ่งนางกมลวรรณตอบว่าดีมากเลย เพราะเอกสารที่ส่งมาจากศาลปึกใหญ่ อ่านไม่ค่อยออก แปลภาษาทางราชการไม่ถูก ตนเอง แม่ และลูกๆ หลานๆ จะได้คลายความทุกข์ใจ ไม่อยากเห็นแม่ฝืนยิ้ม ฝืนหัวเราะ ทั้งที่ใจมีความกังวลในใจ ลูกหลานอยากเห็นแม่มีความสุขในบั้นปลายชีวิตในวัยใกล้ฝั่ง .-สำนักข่าวไทย