3 การไฟฟ้าร่วม กกพ.แจงลดค่าไฟฟ้า 2 เดือน ลดภาระโควิด

กรุงเทพฯ 15 ม.ค.- 3 การไฟฟ้าร่วม กกพ. แจงลดค่าไฟฟ้า 2 เดือน ลดภาระโควิด ย้ำรอบนี้บ้านขนาดเล็กไม่ฟรีทั้งหมด ฟรีเพียง 90 หน่วยแรก ส่วนการลดกรอบเงินช่วยเหลือ คาดทำให้ประชาชนร่วมประหยัดไฟฟ้า แม้ทำงานที่บ้าน ส่วนเงินช่วยเหลือ หากมีโครงการใหม่ต้องใช้งบรัฐเท่านั้น


สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือสำนักงาน กกพ. ร่วมกับ 3 การไฟฟ้า และการไฟฟ้าสัตหีบ ร่วมแถลงมาตรการลดค่าไฟฟ้า ยืนยันช่วยเหลือทุกภาคส่วน โดยในส่วนผู้ประกอบการขนาดกลางถึงใหญ่และสูบน้ำเพื่อการเกษตรนั้น ได้รับการช่วยเหลือ โดยยกเว้นการเรียกเก็บอัตราค่าไฟฟ้าต่ำสุด (Minimum Charge) เป็นการชั่วคราว ดำเนินการมาตั้งแต่เดือน เม.ย.63 จะสิ้นสุดเดือน มี.ค.64 ส่วนไฟฟ้าบ้านและผู้ประกอบการขนาดเล็ก จะได้รับการช่วยเหลือลดค่าไฟฟ้า 2 เดือน คือ ก.พ.-มี.ค. เทียบกับค่าไฟฟ้าเดือนฐาน เดือน ธ.ค.63 รวมช่วยเหลือกว่า 23.7 ล้านราย งบ 8,202 ล้านบาท

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เปิดเผยว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่มีภาระค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากมาตรการ Work From Home งบที่ใช้ดูแลค่าไฟฟ้าประมาณ 8,202 ล้านบาท เป็นเงินเรียกคืนฐานะการเงินของ 3 การไฟฟ้า ที่ กกพ.กำกับ จำนวน 3,000 ล้านบาท และส่วนที่นำเงินจากรัฐบาลผ่านงบประมาณภาครัฐอีก 5,202 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากเหตุการณ์ผลกระทบยาวนานกว่า 2 เดือนนี้ และต้องมีการใช้เงินอุดหนุนรอบใหม่ ก็ต้องเสนอให้รัฐบาลจัดสรรงบฯ มาช่วยเหลือค่าไฟฟ้า เพราะเงินที่ กกพ.กำกับอยู่ไม่มีเหลือ จะกระทบค่าไฟฟ้าเอฟทีรอบถัดไปนั้น เบื้องต้นยังไม่กระทบ และหากมีกรณีผู้ที่มีภาระหนักจากโควิด-19 จ่ายค่าไฟฟ้าไม่ไหว ก็ขอให้เจรจาการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่ายเป็นกรณีไป 


“การลดค่าไฟฟ้ารอบนี้ ขอย้ำเตือนว่า ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านขนาดเล็กไม่ได้มีการช่วยเหลือฟรีทั้งหมด เหมือนการช่วยลดผลกระทบโควิด-19 รอบปี 2563 โดยยกเว้นใน 90 หน่วยแรก และปรับรูปแบบให้เหมาะสม จูงใจการอนุรักษ์พลังงาน ป้องกันไม่ให้มีผู้นำไปใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจ เช่น ทำน้ำแข็งขาย” นายคมกฤช กล่าว 

ทั้งนี้ เงินที่ กกพ.ดูแล 3,000 ล้านบาท มาจากเงินเรียกคืนฐานะการเงินจากการไฟฟ้า ในปี 2563 (เบื้องต้น) รวมกับเงินคงเหลือเพิ่มเติมจากการปรับลดผลตอบแทนจากการลงทุนของการไฟฟ้า (ROIC) ในปี 2563 ลดลงร้อยละ 10 ซึ่งเงินลด ROIC เป็นการลดปีเดียว รวมวงเงินกว่า 2,000 ล้านบาท ที่ส่วนนี้กระทบต่อการนำเงินส่งรัฐ ส่วนปี 2564 จะลด ROIC อีกหรือไม่ คงแล้วแต่กระทรวงการคลังพิจารณา

ด้านนายจาตุรงค์ สุริยาศศิน รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะโฆษก MEA กล่าวว่า MEA เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย รับผิดชอบดูแลจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ พร้อมดำเนินการตามมาตรการของรัฐบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์การใช้ไฟฟ้า พบว่า ส่วนของบ้านไม่ได้เพิ่มมากนัก เหมือนกับช่วง Work From Home ปีที่แล้ว เนื่องจากอากาศขณะนี้ค่อนข้างเย็น ส่วนการใช้ไฟฟ้าภาคธุรกิจ เช่น ห้างสรรพสินค้า อาคารพาณิชย์ ก็ไม่ได้ลดลง เพราะไม่ได้มีการประกาศล็อกดาวน์ ส่วนที่ลดลงคือภาคอุตสาหกรรม


สำหรับการช่วยเหลือลดค่าไฟฟ้าบิลเดือน ก.พ.-มี.ค.64 เทียบ ธ.ค.63 พื้นที่ MEA มีมาตรการ ดังนี้

มาตรการที่ 1 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.1 ได้รับค่าไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรก (รวมค่าบริการ) โดยให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม 2564

มาตรการที่ 2 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัย ประเภท 1.2 และ 1.3 ได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม 2564 ดังนี้

(1) กรณีการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนที่ได้รับสิทธิ มีหน่วยการใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับหน่วยประจำเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) ให้คิดค่าไฟฟ้าตามหน่วยการใช้ไฟฟ้าจริงประจำเดือนนั้นๆ

(2) กรณีการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนที่ได้รับสิทธิ มีจำนวนหน่วยมากกว่าเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) ผู้ใช้ไฟฟ้าจะได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีแนวดำเนินการ ดังนี้

– หากการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนที่ได้รับสิทธิ ไม่เกิน 500 หน่วย ให้คิดหน่วยเท่ากับบิลค่าไฟฟ้าประจำเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน)

– หากการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนที่ได้รับสิทธิ มากกว่า 500 หน่วย แต่ไม่เกิน 1,000 หน่วย ให้คิดหน่วยเท่ากับบิลค่าไฟฟ้าประจำเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) บวกด้วยหน่วยที่เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) ในอัตราร้อยละ 50

– หากการใช้ไฟฟ้าประจำเดือนได้สิทธิ มากกว่า 1,000 หน่วย ให้คิดหน่วยเท่ากับบิลค่าไฟฟ้าประจำเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) บวกด้วยหน่วยที่เพิ่มขึ้นจากเดือนธันวาคม 2563 (เดือนฐาน) ในอัตราร้อยละ 70

มาตรการที่ 3 สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้ากิจการขนาดเล็ก ประเภท 2.1 และ 2.2 (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ได้รับค่าไฟฟ้าฟรี 50 หน่วยแรก (รวมค่าบริการ) โดยให้เป็นส่วนลดค่าไฟฟ้าก่อนการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม

นายภานุมาศ ลิ้มสุวรรณ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) กล่าวว่า จากการกำหนดพื้นที่เข้มงวดป้องกันโควิด-19 และการขอความร่วมมือประชาชน Work From Home พบว่าประชาชนร่วมมือกับรัฐบาล ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าในส่วน PEA รับผิดชอบ ในส่วนของไฟฟ้าบ้าน เริ่มขยับสูงขึ้นร้อยละ 30-40 ส่วนการใช้ในที่ทำงานลดลงร้อยละ 20-30 ส่วนการลดค่าไฟฟ้า Minimum Charge ให้กับผู้ประกอบการรายใหญ่นั้น ก็ทำให้ MEA สูญเสียรายได้กว่า 30 ล้านบาท/เดือน ถ้ารวมตั้งแต่ เม.ย.63-มี.ค.64 คาดว่าจะสูญเสียรายได้กว่า 3,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ PEA ในส่วนรายละเอียด การลดค่าไฟฟ้า ตั้งแต่ใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2564 เป็นดังนี้ ให้สิทธิใช้ไฟฟ้าฟรี

 1. ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยประเภท 1.1.1

 – ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 90 หน่วย ใช้ไฟฟ้าฟรี

 – ใช้ไฟฟ้าเกิน 90 หน่วย ใช้ไฟฟ้าฟรี 90 หน่วยแรก และคิดค่าไฟฟ้าตั้งแต่หน่วยที่ 91 เป็นต้นไปตามปกติ

 2. ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทกิจการขนาดเล็ก ประเภท 2 ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ

 – ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วย ใช้ไฟฟ้าฟรี

 – ใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วย ใช้ไฟฟ้าฟรี 50 หน่วยแรก และคิดค่าไฟฟ้าตั้งแต่หน่วยที่ 51 เป็นต้นไปตามปกติ

 ให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า

 ผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยประเภท 1.1.2 และ 1.2 ใช้หน่วยการใช้ไฟฟ้าตามใบแจ้งค่าไฟฟ้าประจำเดือนธันวาคม 2563 เป็นเดือนฐานสำหรับการคิดเงิน

 1. การใช้ไฟฟ้ารายเดือนน้อยกว่าหรือเท่ากับหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนฐาน ให้คิดค่าไฟฟ้าจากหน่วยการใช้ไฟฟ้าจริงในเดือนนั้น

 2. การใช้ไฟฟ้ารายเดือนมากกว่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนฐาน

          2.1 ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วย หน่วยที่คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยเดือนธันวาคม 2563

          2.2 ใช้ไฟฟ้ามากกว่า 500 แต่ไม่เกิน 1,000 หน่วย หน่วยที่คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยของเดือนธันวาคม 2563 บวกด้วยร้อยละ 50 ของหน่วยส่วนที่เกินหน่วยเดือนธันวาคม 2563

 2.3 ใช้ไฟฟ้ามากกว่า 1,000 หน่วย หน่วยที่คิดค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยของเดือนธันวาคม 2563 บวกด้วยร้อยละ 70 ของหน่วยส่วนที่เกินหน่วยเดือนธันวาคม 2563. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ประชุมความร่วมมือไทย-กัมพูชา ปราบสแกมเมอร์

สระแก้ว 16 ก.ย.-วันนี้ที่จังหวัดสระแก้ว มีการประชุมสำคัญระหว่างไทยและกัมพูชา เพื่อหวังแนวทางร่วมมือในการปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสแกมเมอร์.-สำนักข่าวไทย

ผู้ค้าทองคำเสนอตั้งเคลียริ่งเฮาส์ ค้านเก็บภาษีเทรดทอง

กรุงเทพฯ 16 ก.ย. – ราคาทองคำนิวไฮตามตลาดโลก การค้าทองคึกคัก ผู้ค้าทองคำค้านแนวคิดภาครัฐเก็บภาษีเทรดทองคำออนไลน์ เพื่อป้องกันบาทแข็งค่า ระบุถอยหลังเข้าคลอง ทำลายการค้า เสนอ ธปท. “ตั้งเคลียริ่งเฮาส์-ปรับสูตรดูแลค่าเงิน” นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการ กลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก จำกัด (MTS Gold) กล่าวว่า ในการประชุมระหว่างผู้ค้าทองคำและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) วานนี้ ทาง ธปท.มีการสอบถามความเห็นเรื่อง การที่กระทรวงการคลังอาจออกมาตรการเก็บภาษีในการซื้อ-ขายทองคำ โดยเฉพาะธุรกรรมออนไลน์และมีการชำระเป็นเงินบาท เพื่อลดผลกระทบจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต่อเงินบาท ซึ่งทางผู้ค้าทองคำ คัดค้านเพราะจะกระทบต่อการค้าทองคำในองค์รวมของทั้งในและต่างประเทศ ทำลายระบบเศรษฐกิจ โดยในขณะนี้การค้าทองคำทั้งในและต่างประเทศแต่ละปีมีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท/ปี และความนิยมเทรดระบบออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจดิจิทัล ตอบสนองนพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ ที่นิยมเทรดออนไลน์ทั้งผ่านแอปฯ ต่างๆ และเทรดผ่าน Gold Futures ตลาด TFEX ซึ่งเป็นการเทรดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำภายในประเทศ โดยยอดเทรดเติบโตอย่างมากราว 9-20 ตัน/วัน หรือ 20,000-35,000 สัญญาต่อวัน […]

รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้

พรรคภูมิใจไทย 16 ก.ย.-รอลุ้นโฉมหน้า ครม.อนุทิน 1 คาดช้าสุดทูลเกล้าฯ พรุ่งนี้ หลังนายกฯ ลั่นเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าการนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีอนุทิน 1 คาดว่าจะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้ (16 ก.ย.) หรืออย่างช้าวันพรุ่งนี้ (17 ก.ย.) ซึ่งต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ขณะที่บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้าวันนี้ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรค อาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอนุทิน ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ไว้ว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งจะสามารถทูลเกล้าฯ ถลายได้ภายในสัปดาห์นี้.-สำนักข่าวไทย

เตือนภาวะน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.

กรุงเทพฯ 16 ก.ย.-สทนช. ออกประกาศเตือน เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง 17-22 ก.ย.นี้ คาดระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงจะสูงกว่าจุดวิกฤติ 0.20 เมตร เสี่ยงน้ำเอ่อล้นริมเจ้าพระยา-ท่าจีน-แม่กลอง สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเตือน เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำทะเลหนุนสูง” เตือนประชาชนและหน่วยงานในพื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำแม่กลอง ให้เฝ้าระวังระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ระหว่างวันที่ 17–22 กันยายน 2568 ในช่วงเวลา 16.00–19.00 น. ของแต่ละวัน โดยเฉพาะพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำและแนวเขื่อนชั่วคราว ซึ่งยังไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือที่เรียกว่า “แนวฟันหลอ” นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสทนช. กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ร่วมกับกรมอุทกศาสตร์ คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ระดับน้ำทะเลหนุนสูง โดยระดับน้ำบริเวณป้อมพระจุลจอมเกล้าและพื้นที่ใกล้เคียงอาจสูงถึง 1.70–1.90 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงกว่าระดับน้ำวิกฤติประมาณ 0.20 เมตร ปัจจัยที่ส่งผลต่อการหนุนสูงของน้ำทะเลในช่วงนี้ได้แก่ ร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศไทย ประกอบกับลมตะวันออกเฉียงใต้และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง ซึ่งยังคงพัดปกคลุมประเทศไทยและบริเวณอ่าวไทย ส่งผลให้บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก และเมื่อรวมกับปรากฏการณ์น้ำทะเลหนุน จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้น เกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำ พื้นที่เสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ […]